ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การลาออกของ รมต.กลาโหมสหรัฐฯ สร้างคำถามเรื่องความร่วมมือเพื่อต้านอิทธิพลจีน


U.S. Defense Secretary Jim Mattis, center, attends an informal lunch meeting at ASEAN Defense Ministers' Meeting in Singapore, Oct. 19, 2018.
U.S. Defense Secretary Jim Mattis, center, attends an informal lunch meeting at ASEAN Defense Ministers' Meeting in Singapore, Oct. 19, 2018.

หลายประเทศในเอเชียวางใจในประสบการณ์และทัศนะการทำงานร่วมกับพันธมิตรของ พล.อ. เจมส์ แมททิส

please wait

No media source currently available

0:00 0:04:08 0:00

ในปีนี้ พล.อ. เจมส์ แมททิส (James Mattis) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางเยือนเวียดนามสองครั้งเพื่อให้คำมั่นเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อเวียดนาม เพื่อต้านทานการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพาราเซลจากจีน รวมทั้งยังให้สัญญากับฟิลิปปินส์เรื่องการกระชับความเป็นพันธมิตรทางทหารอันยาวนานระหว่างประเทศทั้งสองด้วย

ท่าทีและคำมั่นดังกล่าวมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจให้กับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกี่ยวกับนโยบายด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีที่แล้ว เป็นต้นมา

แต่นักวิเคราะห์ด้านเอเชียหลายคน เช่น นาย Sean King จากบริษัทที่ปรึกษาทางการเมือง Park Strategies ในนครนิวยอร์ก กล่าวว่า การลาออกจากตำแหน่งของ พล.อ. Mattis อย่างกะทันหัน ส่งผลสั่นคลอนความเชื่อมั่นดังกล่าว

โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียผู้นี้บอกว่า ตนเชื่อว่าผู้นำของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายคนคงอุทานในทำนองว่า “อีกแล้วหรือนี่!?” และว่าคุณสมบัติที่ พล.อ. Mattis มีอยู่ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ในเอเชีย และในส่วนอื่นของโลก

นอกจากการมีประสบการณ์ในกองทัพสหรัฐฯ มายาวนานกว่า 40 ปีแล้ว พล.อ. Mattis ยังเป็นผู้มีความเชื่ออย่างจริงจังเรื่องความสำคัญของการทำงานร่วมมือกับประเทศพันธมิตรเพื่อสร้างความมั่นคง ดังที่เห็นได้ในคำกล่าวเชิงตำหนิประธานาธิบดีทรัมป์ในจดหมายลาออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นต้น

อาจารย์ Huang Kwei-bo รองคณบดีคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัย National Chengchi University ในกรุงไทเป ก็ชี้ว่า ประเทศต่างๆ ในเอเชียรู้สึกไว้วางใจในตัวพล.อ. Mattis ดังตัวอย่างที่จะเห็นได้จากการที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ผู้นี้ เดินทางไปร่วมประชุมด้านความมั่นคงระหว่างประเทศของเอเชียคือ Shangri-la Dialogue ที่สิงคโปร์ ถึงสองครั้งในช่วงสองปีที่ดำรงตำแหน่ง

ทั้งยังกล่าวยืนยันในที่ประชุมในปีนี้ว่า สหรัฐฯ จะช่วยเหลือประเทศที่เป็นหุ้นส่วนผู้ร่วมมือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลจากการแผ่อำนาจและขยายอิทธิพลของจีนด้วย

พล.อ. James Mattis ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ อย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ จะถอนกำลังทหารประมาณ 2,000 คน ซึ่งมีบทบาทในการช่วยฝึกกองกำลังท้องถิ่นเพื่อต่อต้านปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรีย ออกจากประเทศ

นาย Sean King นักวิจัยด้านเอเชีย ชี้ว่า ดูเหมือนว่าประเทศที่น่าจะคิดถึงบทบาทอิทธิพลของพล.อ. Mattis มากที่สุด คงจะเป็นเวียดนาม และว่าขณะนี้ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่มุ่งหวังบทบาทของสหรัฐฯ ในเรื่องการประกันความมั่นคง ขณะที่คาดหวังจีนในด้านความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ

ในจดหมายลาออกถึงประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น พล.อ. James Mattis อดีตนายพลเหล่านาวิกโยธินวัย 68 ปี ระบุว่า ตนจะอยู่ในตำแหน่งถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพื่อช่วยให้มีการส่งมอบงานของกระทรวงอย่างราบรื่น

แต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศทางทวีตว่าพล.อ. Mattis จะพ้นจากตำแหน่งหลังวันที่ 31 ธันวาคมนี้ และตนได้ตั้งนาย Patrick Shanahan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารของบริษัท Boeing ให้เป็นผู้รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมศกหน้าเป็นต้นไป

XS
SM
MD
LG