หลายประเทศในเอเชียเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดควบคุมหลังจากที่ใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อรับมือกับโควิด-19 อย่างเข้มงวดมานาน แต่การเริ่มเปิดประเทศในเอเชียเกิดขึ้นช้ากว่าในกลุ่มประเทศตะวันตก และในบางประเทศเจ้าหน้าที่ของรัฐเตือนว่าอาจจะกลับไปใช้มาตรการควบคุมเหมือนเดิมได้หากตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น
เท่าที่ผ่านมา แนวทางรับมือกับโควิด-19 ของแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชียนั้นแตกต่างกันไป ตั้งแต่การพยายามกดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ต่ำใกล้ศูนย์ ไปจนถึงความพยายามอยู่ร่วมกับโควิดและเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียมีอัตราการรับวัคซีนครบโดสเพียงราว 30% แต่ตัวเลขนี้จะสูงกว่าในจุดท่องเที่ยว เช่น เกาะบาหลีนั้น รัฐบาลกรุงจาการ์ตาเริ่มรับนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจาก 19 ประเทศแต่ยังกำหนดให้ต้องถูกกักตัวอย่างน้อยห้าวัน
มาเลเซีย
กว่า 75% ของประชาชนได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว และผู้ที่ได้รับวัคซีนก็สามารถเดินทางข้ามรัฐหรือไปต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียเหล่านี้ยังต้องถูกกักตัว 14 วันเมื่อเดินทางกลับประเทศอยู่ และมีรายงานว่ามาเลเซียจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังเกาะลังกาวีโดยถือเป็นโครงการนำร่องในเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นกัน
สิงคโปร์
ที่ผ่านมา สิงคโปร์พยายามใช้นโยบายกดโควิดให้เป็นศูนย์ แต่ก็ได้เลิกนโยบายดังกล่าวเมื่อเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม อัตราการรับวัคซีนของชาวสิงคโปร์ที่สูงถึง 80% ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และขณะนี้สิงคโปร์ก็ต้อนรับนักเดินทางและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจากอย่างน้อย 12 ประเทศด้วย
ฟิลิปปินส์
ชาวฟิลิปปินส์อยู่ใต้มาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดและยาวนานมากที่สุดเท่าที่มีการใช้กันในประเทศต่าง ๆ แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลกรุงมะนิลาได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ถึงกระนั้นก็ตาม ขณะนี้มีชาวฟิลิปปินส์เพียงแค่ 20% ซึ่งได้วัคซีนครบโดสแล้ว และรัฐบาลก็จัดลำดับความสำคัญของวัคซีนให้กับบุคลากรในภาคท่องเที่ยวก่อนโดยหวังว่าจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในไม่ช้า
กัมพูชา
ถึงแม้กัมพูชาจะเป็นประเทศยากจนที่สุดประเทศหนึ่งของเอเชีย แต่กลับมีอัตราการฉีดวัคซีนติดกลุ่มสูงที่สุด และกัมพูชาก็ตัดสินใจใช้นโยบายอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 เช่นกัน โดยตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ฉีดวัคซีนครบแล้วจะสามารถไปเที่ยวเมืองตากอากาศสามแห่งของประเทศได้โดยไม่ถูกกักตัว แต่จะต้องอยู่ที่เมืองแรกซึ่งเดินทางไปถึงเป็นเวลาอย่างน้อยห้าวัน
เวียดนาม
เวียดนามซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโควิดจนถึงเดือนกรกฎาคม ขณะนี้มีชาวเวียดนามเพียงราว 25% เท่านั้นซึ่งได้วัคซีนครบโดส และถึงแม้รัฐบาลกรุงฮานอยจะยังบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวดก็ตาม แต่เวียดนามก็กำลังปรับเปลี่ยนนโยบายโดยพยายามหันมาอยู่ร่วมกับไวรัส
และเจ้าหน้าที่ทางการก็เพิ่งประกาศต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้ฉีดวัคซีนครบแล้วในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญห้าแห่งโดยไม่ต้องถูกกักตัว
ลาว
รัฐบาลลาวยังขยายมาตรการล็อคดาวน์ออกไปเพื่อชะลอการระบาด และยังมีคำสั่งห้ามการรวมตัวของผู้คนหรือการเดินทางข้ามในหลายจังหวัดอยู่ เพราะขณะนี้มีเพียง 40% ของประชากรในลาวเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน
ไทย
ในส่วนของประเทศไทยซึ่งก็มีอัตราการรับวัคซีนครบโดสอยู่ที่ราว 44% เช่นกัน มีบางคนที่แสดงความกังวลว่าการเปิดประเทศจะทำให้ตัวเลขการติดเชื้อกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกได้ และว่าขณะนี้ชุดตรวจ ATK ก็ยังมีไม่แพร่หลายหรือเพียงพอรวมทั้งยังมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวบางคนจะละเลยมาตรการป้องกัน เช่น การเว้นระยะห่างหรือการสวมหน้ากาก เป็นต้น
จีน
สำหรับจีนนั้น ขณะที่หลายประเทศในเอเชียค่อย ๆ ทยอยเปิดประเทศแล้ว แต่ปักกิ่งยังพยายามใช้นโยบายควบคุมการแพร่เชื้อโควิดอย่างเข้มงวดอยู่ ด้วยการใช้มาตรการล็อคดาวน์พื้นที่ในวงกว้างแม้จะมีรายงานการระบาดเพียงเล็กน้อยก็ตาม
โดยถึงแม้ราว 75% ของประชาชนในจีนจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนก็ยืนยันว่ามาตรการคุมเข้มเรื่องโควิดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าอัตราการได้รับวัคซีนจะสูงกว่านี้ และขณะนี้จีนก็ยังไม่เปิดรับนักเดินทางส่วนใหญ่จากต่างประเทศด้วย เช่นเดียวกับญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ซึ่งก็ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน