กลุ่มประเทศอาเซียน ได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน หลังจากที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของทั้งจีนและอาเซียนเริ่มกลับมา ในขณะที่โคโรนาไวรัสยังคงชะลอการฟื้นตัวประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่นๆ หลายแห่ง รวมถึงสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนเมื่อปีที่แล้ว
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างจีนและอาเซียนมีมูลค่า 240,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
มูลค่าการค้าระดับดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของปริมาณการค้าทั่วโลก
จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ตั้งเเต่เดือนมีนาคม และประเทศสมาชิกอาเซียนเช่น เวียดนามและมาเลเซียเดินหน้าผ่อนคลายเช่นเดียวกันในเวลาต่อมา
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ประเทศโลกตะวันตกหลายส่วนยังคงเผชิญกับการชะลอลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงล็อคดาวน์
อาเซียนยังมีปัจจัยเกื้อหนุนอื่นๆในการทำการค้าขายกับจีน เช่นระบบภาษีที่ส่งเสริมการส่งออก นอกจากนี้ในอนาคตความตกลงการค้า Regional Comprehensive Economic Partnership ซึ่งจีนและเอาเซียนลงนามร่วมกันในปีนี้ น่าจะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างกัน
นักวิเคราะห์ ซอง เซง วุน จากธนาคาร CIMB กล่าวว่าจีนต้องการสินค้าหลายชนิด จากอาเซียน เช่น ปาล์นนำ้มัน ยางพารา และอาหารสำเร็จรูป
ขณะที่ ราจีฟ บิสวาส หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจแห่ง IHS Markit กล่าวว่า ในช่วงที่ยุโรป ไม่สามารถผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิคส์ได้ตามปกติในไตรมาสเเรกของปี โรงงานที่ไทยและมาเลเซียสามารถผติตสินค้านี้ป้อนความต้องการของจีนได้ โดยจีนนำเข้าสินค้าประเภทดังกล่าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม