บริษัท แอปเปิล (Apple) ปรับมาตรการให้พนักงานต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ หรือ บูสเตอร์ อ้างอิงจากอีเมลภายในองค์กรของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างข้อมูลจากบล็อกเทคโนโลยี The Verge ระบุว่า เริ่มต้นตั้งแต่ 24 มกราคมเป็นต้นไป พนักงานที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือพนักงานที่ยังไม่ได้ส่งหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดที่เป็นลบ ก่อนเข้าอาคารของบริษัท แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการตรวจเชื้อโควิดนี้มีผลกับทั้งพนักงานที่ทำงานในอาคารสำนักงานใหญ่และพนักงานส่วนที่ทำงานใน Apple Store ทั้งหมดหรือไม่
รายละเอียดจากอีเมลภายในองค์กร ที่บล็อกเทคโนโลยี The Verge นำมาเผยแพร่ ระบุด้วยว่า เนื่องจากประสิทธิภาพที่ลดลงของวัคซีนโควิดที่ได้รับในช่วงแรก และการระบาดของโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว การเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเข้ารับวัคซีนให้สามารถป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิดได้
อย่างไรก็ตาม ทางแอปเปิลยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์แต่อย่างใด
ที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ ยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ขององค์กรอย่างเคร่งครัดขึ้น ทั้งการบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 และชะลอการกลับเข้าอาคารสำนักงาน จากการระบาดของโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนทั่วประเทศ
อย่างกรณีของ เมตา (Meta) เจ้าของสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค (Facebook) บังคับพนักงานทั้งหมดให้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์ก่อนกลับเข้าอาคารสำนักงาน และยังชะลอการกลับเข้าสำนักงานไปจนถึงวันที่ 28 มีนาคมนี้ จากกำหนดการเดิมที่ 31 มกราคม
ส่วนบริษัทอัลฟาเบต (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) กำหนดมาตรการชั่วคราวให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับทุกคนที่จะเข้าสำนักงานในสหรัฐฯ
และบริษัทแอมะซอน (Amazon) ได้เสนอเงิน 40 ดอลลาร์ เพื่อให้กับพนักงานที่ทำงานในคลังสินค้าเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์
(ที่มา: รอยเตอร์)
