การสำรวจของสมาคมผู้สร้างบ้าน (National Association of Homebuilders) พบว่า ขนาดบ้านของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยข้อมูลในปีนี้พบว่า ขนาดบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวอเมริกันโดยเฉลี่ย อยู่ที่ 240 ตารางเมตร หรือราว 60 ตารางวา
นายหลุยส์ ไฮแมน อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์เศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัย Cornell บอกว่า บ้านของชาวอเมริกันในยุคศตวรรษที่ 20 จะเหมือนการแบ่งเขตแดนของเจ้าของ ด้วยการสร้างบ้านเฉกเช่นปราสาทส่วนตัว เพื่อสะท้อนความเป็นอิสระและความสำเร็จของตัวเอง
ในช่วงทศวรรษที่ 1940 ประธานาธิบดีแฟรงคลิน รูสเวลต์ เคยเปรียบเทียบการมีบ้านเท่ากับการมีสถานะพลเมือง แต่ปัจจุบันนี้ การเป็นเจ้าของบ้านในอเมริกาอยู่ที่ราว 65% เท่านั้น ส่วนมุมมองของชาวอเมริกันบางคนที่ยังมองว่าบ้านขนาดใหญ่จะบ่งบอกสถานะทางสังคม เป็นเครื่องประเมินความสำเร็จในชีวิตของเจ้าของบ้านอยู่ดี
ด้านการศึกษาของ INSEAD จากยุโรป พบว่า ผู้คนที่อาศัยในบ้านใหญ่กว่า มีแนวโน้มจะมีความพึงพอใจกับที่อยู่อาศัยของตัวเองมากกว่า แต่ความพึงพอใจนั้นอาจจะลดน้อยถอยลงไปได้หากมีบ้านที่ใหญ่กว่ามาปลูกใกล้ๆกัน