คุณซินเธีย อาร์คัส สารภาพว่าลูกชายเป็นคนสร้างเเรงบันดาลใจเเละผลักดันให้เธอสร้างสรรค์ธุรกิจผลิตรองเท้าผ้าใบที่เป็นมิตรต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม ยี่ห้อ Arcas Bear
เธอกล่าวว่า ลูกชายเคยถามคำถามมากมาย อาทิ ทำไมเราจึงใช้ทรัพยากรอย่างสุรุ่ยสุร่ายหรือทำไมเราจึงไม่ประหยัดน้ำ เเละเป็นเพราะคำถามเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เธอฉุกคิดว่าจะทำธุรกิจเเบบใหม่
คุณอาร์คัส ตัดสินใจว่า เธอคงต้องเริ่มที่ตัวเองเสียก่อน เเละนั่นเป็นจุดกำเนิดของยี่ห้อ Arcas Bear เธอผลิตรองเท้าผ้าใบที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และรองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมนี้เเม้ว่าจะมีให้เลือกหลายสีมากมาย แต่ไม่ได้ย้อมสี เพียงเเค่ทำจากวัสดุรีไซเคิลที่มีสีนั้น ๆ อยู่เเล้ว
คุณอาร์คัสบอกว่า การย้อมสีต้องใช้น้ำเเละสารเคมีทำให้เธอหาทางสร้างความสมดุลเเละตัดสินใจเลือกใช้ยาง ฝ้ายเเละพลาสติกรีไซเคิล ในการผลิตรองเท้าผ้าใบที่มีความยั่งยืนทางสิ่งเเวดล้อม ด้านในของรองเท้าก็สวมใส่สบายเพราะใช้ไฟเบอร์จากใยมะพร้าว
และรองเท้าผ้าใบเก่าที่เสียทรงเเละเปลี่ยนสีถูกนำมาผลิตเป็นรองเท้าแฟชั่นคู่ใหม่
คุณอาร์คัส เจ้าของเเบรนด์ บอกว่า รองเท้าของเธอใช้ส้นรองเท้าที่ทำจากยางซึ่งได้มาจากรองเท้าเก่า เพียงแต่ที่นำมาใช้งานใหม่เท่านั้น
รองเท้าผ้าใบวีแกนของคุณอาร์คัสได้รับความสนใจอย่างมากในงานสัปดาห์เเสดงสินค้าเเฟชั่นวีกัน (the Vegan Fashion week) ที่จัดขึ้นที่นครลอสเองเจลลีส เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คุณอาร์คัสเเละนักออกแบบเเฟชั่นคนอื่น ๆ ต้องการสร้างภาพลักษณ์ว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมไม่ได้มีหน้าตาน่าเกลียดเสมอไป
คุณรีเบคคา มิงค์ นักออกแบบเสื้อผ้าอีกคนหนึ่ง กล่าวว่าเธอเคยเป็นสไตล์ลิสท์ให้กับดารา เธอเคยผลิตเสื้อผ้าให้ลูกค้ามากมายเเละเคยใช้เงินถึงเดือนละกว่า 10,000 ดอลลาร์ ซื้อรองเท้าหรูหราราคาเเพง เธออยากหาทางผลิตรองเท้าที่ไม่ใช้หนังสัตว์เเละวัสดุที่ปลอดจากการทรมานสัตว์ เเต่สวมใส่สบายเเละทันสมัย เธอจึงตัดสินใจผลิตรองเท้าเเบบนี้เสียเอง
คุณมิงค์เคยผลิตรองเท้าแฟชั่นผลิตด้วยวัสดุที่ได้จากผลไม้และผักให้กับดาราฮอลลีวู้ดมานานกว่า 20 ปี เธอใช้ผลไม้เเละผัก ตั้งเเต่แอปเปิ้ล สับปะรดเเละเห็ด ผลิตเป็นรองเท้า วัสดุที่เธอใช้จะสร้างความความทึ่งเเก่นักออกเเบบระดับปรมาจารย์ทั้งหลาย
แต่รองเท้าวีแกนของเธอผลิตในอิตาลีเเละราคาเเพงลิบลิ่ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรองเท้าวีแกนส่วนใหญ่ อย่างรองเท้าผ้าใบของยี่ห้อ Arcas Bear คู่หนึ่งขายในราคา 200 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ ราว 6,000 บาท เเต่เนื่องจากกระเเสความยั่งยืนทางสิ่งเเวดล้อมเเละความเป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมกำลังมาเเรง บริษัทผลิตรองเท้าวีแกนล้วนมีลูกค้าแบบหัวกระไดไม่แห้ง
ขณะนี้ดูเหมือนว่ารองเท้าวีแกนกำลังมาเเรงแค่ในสหรัฐฯ เท่านั้น ชาติต่าง ๆ ในยุโรปยังนิยมสวมรองเท้าหนังสัตว์กันอยู่ ดังนั้นนักออกเเบบรองเท้าวีแกนส่วนมากจึงมีอยู่ในสหรัฐฯ เพราะพวกเขารู้ว่าจะมีลูกค้าอย่างเเน่นอน