ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชาวอเมริกันกับความกังวลเรื่องเงินไม่พอใช้จ่ายหลังเกษียณ


FILE - Retired Americans gather in a market in Boquete, west of Panama City, Panama. The country has become a hot spot for American retirees.
FILE - Retired Americans gather in a market in Boquete, west of Panama City, Panama. The country has become a hot spot for American retirees.

แกลลัพชี้ชาวอเมริกันเกือบกึ่งหนึ่งกังวลเกี่ยวกับการเงินหลังเกษียณ

ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของบริษัทแกลลัพ (Gallup) พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันบอกว่า ชีวิตจะไม่สะดวกสบายนักหลังเกษียณอายุจากการทำงาน เพราะจะไม่มีเงินพอใช้จ่าย

จำนวนชาวอเมริกันที่กังวลในเรื่องนี้มีจำนวนลดลง เมื่อเทียบกับผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่องเดียวกันนี้ซึ่งจัดทำขึ้นทันทีภายหลังเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2551 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ก็ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากการสำรวจจากปี พ.ศ. 2545 กับ พ.ศ. 2547 ซึ่งในตอนนั้น ชาวอเมริกันร้อยละ 32 และร้อยละ 36 บอกว่าชีวิตจะไม่สุขสบายหลังเกษียณ เพราะรายได้อาจจะไม่พอจ่าย

และที่สำคัญกว่านั้น ผลการสำรวจล่าสุดพบว่าจำนวนชาวอเมริกันที่มีความกังวลเกี่ยวกับการมีเงินไม่เพียงพอสำหรับชีวิตหลังเกษียณ เพิ่มมากขึ้นกว่าจำนวนคนที่กังวลว่าจะมีเงินไม่พอจ่ายค่ารักษาพยาบาล หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน

ชีวิตหลังเกษียณอายุจากการทำงานยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ ในห้วงที่มีจำนวนชาวอเมริกันที่เกิดในช่วง “เบบี้บูม” กำลังเริ่มเกษียณอายุกันอย่างต่อเนื่อง

และจากตัวเลขทางสถิติจากหน้าเว็บไซท์ FiveThirtyEight ชี้ว่า ชาวอเมริกันเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ ทั้งหมด เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1946 และ 1964 ซึ่งเป็นปีที่ใช้เรียกว่าเป็นคนรุ่นเบบี้บูม และหากคำนวณเเล้ว คิดเป็นจำนวนมากกว่า 75 ล้านคน

และยิ่งไปกว่านี้ ในขณะที่คนเหล่านี้เกษียณอายุไป สหรัฐฯ จะมีจำนวนคนทำงานลดลงในการช่วยพยุงอนาคตของคนวัยเกษียณรุ่นต่อไปในอนาคต

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยังมีแรงกดดันอีกอย่างหนึ่งต่อระบบเกษียณอายุของสหรัฐฯ นั่นก็คือคนในสหรัฐฯ มีอายุยืนกันมากขึ้นในปัจจุบัน โดยตัวเลขจากทางการสหรัฐฯ ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน 20 ปีหลังเกษียณอายุ

ชาวอเมริกันมักเก็บออมเพื่อชีวิตหลังเกษียณหลายวิธีด้วยกัน รวมทั้งการเก็บออมเงินเข้ากองทุนเกษียณที่บริษัทผู้ว่าจ้างงานให้การสนับสนุน เงินออมในธนาคาร ตลอดจนการลงทุนเเละระบบประกันสังคมของสหรัฐฯที่เรียกว่า Social Security

ผลการสำรวจของบริษัทแกลลัพครั้งนี้ สะท้อนผลการวิจัยของศูนย์การวิจัยพิว (Pew Research Center) เมื่อปี พ.ศ. 2555 ที่พบว่าชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 38 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าไม่มั่นใจมากนัก หรือ ไม่มั่นใจเลย ว่าจะมีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ

อย่างไรก็ตาม บริษัทแกลลัพพบว่าชาวอเมริกันกลุ่มที่เกษียณอายุไปแล้ว มีความเห็นทางบวกมากกว่า โดยกล่าวว่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2548 กับ 2561 มีชาวอเมริกันเกษียณอายุเเล้วประมาณ 72 - 79 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่า มีชีวิตที่สะดวกสบายดีเพราะมีเงินพอใช้จ่าย

บริษัทแกลลัพชี้ว่ามีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เกิดความเเตกต่างกันอย่างมากนี้ ทางบริษัทชี้ว่าเป็นไปได้ว่าผู้เกษียณอายุเเล้วอาจมีเงินบำนาญมากกว่าคนที่ยังทำงานอยู่ หรือได้เก็บออมเงินไว้ได้มากกว่าในช่วงที่ยังอายุน้อย เเละอาจได้รับเงินสวัสดิการจากระบบเงินประกันสังคมยังเหมือนเดิมมานานหลายสิบปี

บริษัทแกลลัพชี้ว่า เมื่อเกษียณอายุ ชาวอเมริกันอาจจะรู้จักประหยัดมากขึ้นเพื่อให้มีเงินพอใช้จ่าย และอาจจะจำเป็นต้องใช้เงินน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนเกษียณ ในขณะเดียวกัน คนที่ยังไม่เกษียณที่อาจจะคาดว่าระบบประกันสังคมจะมีปัญหาทางการเงินในอนาคตหรืออาจจะกังวล เพราะไม่ได้เก็บออมเพื่อการเกษียณอายุส่วนตัวอื่นๆ หรือรู้สึกไม่มั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศ เเละได้รับคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินอยู่ตลอดเวลาว่าชาวอเมริกันไม่เก็บออมเงิน

ผลการสำรวจปี พ.ศ. 2559 พบว่า ชาวอเมริกัน 66 ล้านคนไม่มีเงินเก็บเลยแม้เเต่ดอลลาร์เดียว เพื่อใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน

บริษัทแกลลัพ รายงานว่า ชาวอเมริกันที่รู้สึกมั่นใจน้อยที่สุดเกี่ยวกับการเงินหลังเกษียณ เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีหรือน้อยกว่า ในขณะที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีรายได้ระหว่าง 30,000 กับ 75,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี รู้สึกดีกับการเก็บออมเพื่อการเกษียณ

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)

XS
SM
MD
LG