คำถามที่ว่า “คุณเป็นชาวอเมริกันหรือไม่” ที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในการสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2563 ได้กลายเป็นประเด็นหลักของการถกเถียงกันเรื่องคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ในขณะนี้
นางซาร่า ฮัคเคอร์บี้ แซนเดอร์ส โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ตนเองมองว่าคำถามนี้จะเป็นการยืนยันสถานภาพของเเต่ละบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้ เเละให้ข้อมูลที่ช่วยให้ทุกคนปฏิบัติตามกฏหมายเเละตามขั้นตอนต่างๆ ของสหรัฐฯ
แต่รัฐแคลิฟอร์เนียได้ยื่นฟ้องต่อศาลทันที เพื่อคัดค้านการเปลี่ยนแปลงนี้
อเล็กซ์ แพดดิลล่า (Alex Padilla) เลขาธิการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า การตั้งคำถามถึงสถานะพลเมืองของปัจเจกบุคคลในสหรัฐฯ เป็นเพียงการเดินหน้าความพยายามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการสร้างบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตรต่อคนเข้าเมืองในสหรัฐฯ เท่านั้น
การสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ จัดทำขึ้นทุก 10 ปี เพื่อให้ข้อมูลที่สำคัญเเก่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับทุกด้านตั้งเเต่การจัดสรรงบประมาณ ไปจนถึงตัวแทนในวุฒิสภา
ในอดีต คำถามเกี่ยวกับสถานะพลเมือง เคยใช้ในการสำรวจสำมะโนประชากรมานานกว่า 100 ปี จนยกเลิกไปในปี พ.ศ. 2493 หรือเมื่อ 68 ปีที่แล้ว ตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา ประชากรของสหรัฐฯ ที่เกิดในต่างประเทศได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก
รัฐอื่นอีก 10 รัฐได้เดินตามรอยรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการตัดสินใจในเรื่องนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
บรรดาหน่วยงานพิทักษ์สิทธิ์ชาวละตินอเมริกา ชี้ว่าการรีบเร่งเพิ่มคำถามเกี่ยวกับสถานภาพทางสัญชาติเข้าไปในการสำรวจสำมะโนประชากรในนาทีสุดท้าย จะสร้างค่าใช้จ่ายที่สูง
คลาลิสซ่า มาร์ติเน่ เเห่งหน่วยงานยูนิดอส ยูเอส (UNIDOS US) กล่าวว่า มีการประมาณว่าการลดลงทุกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของการตอบใบสำรวจสำมะโนประชากร จะทำให้รัฐบาลเสียค่าใช้จ่าย 55 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เพราะเมื่อคนไม่ตอบแบบสำรวจ ทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจด้วยตัวเองเพื่อให้การนับจำนวนประชากรถูกต้อง
แต่ผู้สนับสนุนเรื่องนี้กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่คนเข้าเมืองต้องกลัวเรื่องนี้
แดน สไตน์ (Dan Stein) แห่งสมาพันธ์เพื่อการปฏิรูปคนเข้าเมืองอเมริกัน (Federation for American Immigration reform) กล่าวว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเถียงได้ว่าข้อมูลจะถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำไปใช้ ดังนั้น ข้อถกเถียงอย่างเดียวในที่นี้ คือฝ่ายไม่เห็นด้วยไม่ต้องการให้ชาวอเมริกันรู้เเละเข้าใจว่ามีประชากรที่เกิดในต่างประเทศมากน้อยแค่ไหนในสหรัฐฯ เเละมีกี่เปอร์เซ็นต์ของประชากรเหล่านี้ที่อาศัยในสหรัฐฯ อย่างผิดกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม ศาลต่างๆ ในรัฐทั้ง 11 รัฐนี้ มีเวลาไม่ถึง 2 ปีในการพิจารณาเรื่องนี้ ก่อนที่จะเริ่มมีการสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ รอบใหม่
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)