หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal เสนอรายงานเรื่อง “Are You Likely To Have An affair ?” ซึ่งอ้างข้อมูลจากบทความทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งจากงานวิจัยแหล่งอื่นๆ
รายงานระบุปัจจัยที่อาจเพิ่มโอกาสความเสี่ยงของการมีชู้นอกใจ ว่ามีตั้งแต่ช่วงปีสำคัญก่อนที่จะเปลี่ยนช่วงอายุ เช่นเมื่ออายุ 29, 39, 49 หรือ 59 ปี โดยเฉพาะสำหรับผู้ชาย รวมทั้งระดับฮอร์โมน Testosterone ในเพศชาย ภาวะแวดล้อม เช่นการเดินทางคนเดียวหรือโอกาสการอยู่ใกล้ชิดคนต่างเพศ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตลอดจนถึงความพึงพอใจในคุณภาพของความสัมพันธ์ที่มีอยู่
นักวิจัยกล่าวว่าเพศชายกับเพศหญิงมักมีเหตุผลที่ต่างกันในการนอกใจแฟนหรือคู่สมรส คือในขณะที่ผู้ชายนอกใจเพราะต้องการแสวงหาความหลากหลายหรือความตื่นเต้นในความสัมพันธ์ทางเพศนั้น ผู้หญิงมักนอกใจเนื่องจากขาดความพึงพอใจทางอารมณ์ และต้องการเครื่องยืนยันหรือการพิสูจน์ว่าตนเองยังเป็นที่สนใจและยังเป็นที่ต้องการอยู่
นักวิจัยตั้งข้อสังเกตด้วยว่าผู้ชายจะไม่พอใจหากแฟนของตนมีเพศสัมพันธ์หรือเป็นชู้ทางกายกับคนอื่น ในขณะที่ผู้หญิงจะไม่พอใจหากแฟนของตนมีชู้ทางใจ
ในการศึกษาเรื่องการนอกใจ นักวิจัยได้พบว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ทั้งกับเพศชายและเพศหญิง แต่ในยุคปัจจุบันนี้ซึ่งสตรีมีทางเลือก มีอำนาจ และมีรายได้มากขึ้น ช่องว่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงสำหรับพฤติกรรมการนอกใจจึงลดน้อยลงกว่าสมัยก่อน
อย่างไรก็ตามนักวิจัยเตือนว่าถึงแม้บางคนจะคิดนอกใจเพราะไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ที่มีอยู่ก็ตาม แต่การเป็นชู้นอกใจก็จะทำให้บุคคลนั้นไม่มีความสุขเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน