รายงานของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal บอกว่าธุรกิจรับจ้างกอดนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Travis Sigley หงุดหงิดกับกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่ห้ามการถูกต้องสัมผัสระหว่างนักจิตบำบัดกับคนไข้ เลยตั้งสำนักรับจ้างกอด Cuddle Therapy ขึ้นมาที่นคร San Francisco
รายงานกล่าวว่า ผู้ให้บริการกอดนี้มีทั้งชายและหญิง ผู้กอดและผู้ถูกกอดสวมเสื้อผ้าตลอดเวลา เจ้าของธุรกิจบางรายมีสัญญาระบุกฎข้อบังคับที่ลูกค้าต้องเซ็นรับก่อนเข้ารับบริการ สัญญานั้นกำหนดความประพฤติ และการทำสะอาดร่างกายล่วงหน้า ซึ่งรวมทั้งการแปรงฟันและการอาบน้ำ
สถานที่บริการ มีตั้งแต่ห้องนอนในบ้านของผู้ให้บริการ ไปจนถึงสถานที่เชิงพาณิชย์ ส่วนอัตราค่าบริการ เริ่มต้นที่ นาทีละ 1 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น และถ้าต้องการกอดทั้งคืน ค่าบริการอาจสูงถึง $400
การนัดหมายทำได้สะดวกมากในโลกดิจิทัล เพราะมีทั้งเว็บไซต์ และ apps ออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เป็นอย่างดี
นักกอดอาชีพเหล่านี้ ไม่มีการฝึกอบรม และไม่ต้องแสดงประกาศนียบัตรหรือใบรับรองใดๆ รวมทั้งไม่ต้องจดทะเบียนด้วย
การควบคุมดูแลเป็นไปตามกฎเทศบาลของท้องถิ่นของผู้ประกอบการเอง อย่างมากที่สุด อาจจะต้องจดทะเบียนสำหรับการทำธุรกิจในบ้านเพื่อประโยชน์ในการเสียภาษีอากรเท่านั้น
ส่วนประโยชน์ของการถูกกอดนั้น มีรายงานวิจัยที่ระบุว่า การแตะต้องสัมผัสให้ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมทั้งทางกายและจิตใจ เพราะการสัมผัสเช่นนี้ทำให้มีฮอร์โมน oxytocin เพิ่มขึ้นจาก Hypothalamus
Oxytocin ทำให้คนเรามีความรู้สึกอบอุ่น สบายใจ และการสัมผัสยังช่วยลดความเร็วของชีพจร และลดความเครียดได้ด้วย
รายงานของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal กล่าวว่า มีลูกค้าชายจำนวนไม่น้อยที่ถูกภรรยาและแฟนส่งไปรับบริการ เพื่อจะได้รู้จักการกอดที่ถูกวิธี
ส่วนนักกอดผู้ให้บริการ ถ้าไม่แน่ใจในเทคนิค ก็สามารถค้นคว้าดูได้จากหนังสือ ‘The Cuddle Sutra’ หรือ ‘สูตรการกอด’
Samantha Hess เจ้าของสำนักรับจ้างกอด ‘Cuddle Up to Me’ ในนคร Portland รัฐ Oregon คุยว่า เธอและพนักงานบริการกอดอีกสามคนของเธอมีท่ากอดต่างๆ ให้เลือกมากถึง 50 ท่า
เจ้าของร้าน ‘Cuddle Up to Me’ ผู้นี้ กำลังระดมทุนออนไลน์เพื่อจัดการสัมมนาเรื่องการกอด หรือ ‘Cuddle Con’ ขึ้นในวัน Valentine เดือนหน้านี้