ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ เอดีบี ปรับตัวเลขการคาดการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย โดยเชื่อว่าจะหดตัวลงในปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปี
เอดีบี ประเมินว่า ปีนี้เศรษฐกิจโดยรวมของเอเชียจะหดตัวลง 0.7% และจะฟื้นตัวในระดับ 6.8% ในปีหน้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสในภูมิภาคนี้ด้วย
ในรายงานการคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจครั้งนี้ เอดีบีได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายประเทศที่กำลังมีการระบาดใหญ่ รวมทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเริ่มฟื้นตัวและอาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 1.8% ในปีนี้ และ 7.7% ในปีหน้า
รายงานของเอดีบีระบุว่า การที่เอเชียเป็นฐานการผลิตของสินค้าประเภทอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ สามารถช่วยลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากโควิด-19 ได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทขนาดเล็กที่ขาดแคลนเงินทุนในการฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้จะไม่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่ โดยกราฟการฟื้นตัวของบริษัทขนาดเล็กจะเป็นไปในลักษณะตัว L ไม่ใช่ตัว V และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะสามารถกลับไปอยู่ในจุดที่เคยเป็นก่อนการระบาด
รายงานชี้ว่า ประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ที่เศรษฐกิจหดตัวลงมากกว่า 10% ในไตรมาสที่สองของปีนี้
เอดีบีระบุด้วยว่า มาตรการล็อคดาวน์ที่ประเทศต่าง ๆ นำมาใช้ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจในเอเชีย โดยรัฐบาลประเทศในภูมิภาคนี้ได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศ คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเอดีบีสนับสนุนให้มีการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป