ไลฟ์บล็อกของวีโอเอไทยสิ้นสุดการรายงาน ณ โพสต์นี้ ติดตามเนื้อหาเกี่ยวกับการดีเบตของเราต่อได้ในเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ต่อจากนี
วาทะปิดดีเบต: ฝ่ายหนึ่งชูโอกาส อีกฝ่ายตั้งคำถามว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนที่ยังมีอำนาจ
ในช่วงคำแถลงปิดท้าย ที่แต่ละคนมีเวลาสองนาที แฮร์ริสกล่าวว่าค่ำคืนนี้แสดงให้เห็นความแตกต่างของแคนดิเดตสองคน ระหว่างคนที่มองไปข้างหน้า ส่วนอีกคนมองไปที่อดีต และต้องการพาสหรัฐฯ กลับไปยังอดีต เธอต้องการสร้างเศรษฐกิจที่ดีสำหรับประชาชนอเมริกัน รักษาสถานะของอเมริกาบนเวทีโลก สร้างกองทัพที่เข้มแข็ง ปกป้องสิทธิของพลเมือง รวมทั้งสิทธิของสตรีเหนือร่างกายตนเอง เธอจะเป็นประธานาธิบดีที่มองที่คนอื่นก่อนตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอเมริกันต้องการ
“ฉันมีลูกค้าคนเดียว คือประชาชน ในฐานะอัยการ ฉันไม่เคยถามเหยื่อหรือพยานเลยว่าคุณเป็นรีพับลิกันหรือเดโมแครต คำถามเดียวที่ฉันถามก็คือ คุณโอเคไหม และนั่นคือประธานาธิบดีในแบบที่พวกเราต้องการตอนนี้ คือคนที่แคร์คุณและไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
“ฉันตั้งใจจะเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน และโฟกัสไปในสิ่งที่เราจะทำได้ใน 10 และ 20 ปีนับเพื่อสร้างประเทศเรากลับขึ้นมา ด้วยการลงทุนตอนนี้ ในตัวคุณ ประชาชนอเมริกัน” แฮร์ริสกล่าว
ทรัมป์กล่าวว่า แฮร์ริสบอกว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนที่มีอำนาจตลอดสามปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่ล้มเหลว ถูกประเทศอื่นหัวเราะเยาะ เกิดสงครามขึ้นในยูเครนและตะวันออกกลาง ถดถอยด้านการทหาร พ่ายแพ้ในอัฟกานิสถาน และปล่อยให้อาชญากรจำนวนมากทะลักเข้าในประเทศภายใต้รัฐบาลที่เลวร้ายที่สุด
“เธอ (แฮร์ริส) ควรไปตอนนี้ และไปที่ทำเนียบขาว ไปที่อาคารรัฐสภา รวบรวมคนไปทำสิ่งที่เธออยากทำแต่ยังไม่ทำ และจะไม่ทำ เพราะคุณเชื่อในสิ่งที่คนอเมริกันไม่เชื่อ คุณเชื่อว่าเราจะไม่ทำแฟรกกิ้ง ไม่เอาเชื้อเพลิงฟอสซิลขึ้นมา ไม่ทำในสิ่งที่ประเทศจะเข้มแข็งไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่”
“คุณเสียสละประเทศให้กับวิสัยทัศน์ที่แย่ไม่ได้” ทรัมป์กล่าว
การตอบโต้ในช่วงครึ่งหลังมีทั้งการสอบถามทรัมป์เรื่องการตั้งคำถามถึงเชื้อชาติของแฮร์ริสในเวทีผู้สื่อข่าวผิวดำ นำมาซึ่งวิวาทะของทรัมป์ที่บอกว่าเขาไม่ได้แคร์ในเรื่องนี้และทุกคนทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เอง ส่วนแฮร์ริสเห็นต่างและบอกว่าทรัมป์เป็นผู้สร้างความแตกแยกและนำเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นตั้งแต่การตั้งคำถามถึงเชื้อชาติของบารัก โอบาม่า อดีตประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของสหรัฐฯ
หลังจากนั้นตามมาด้วยการโต้แย้งกันนับตั้งแต่ทรัมป์กล่าวหาว่า แฮร์ริสกับไบเดนนั้นไม่ต่างกัน ซึ่งแฮร์ริสกล่าวว่าเธอไม่ใช่ไบเดนและไม่ใช่ทรัมป์ และต้องการนำนโยบายและแผนมาเปรียบเทียบและถกเถียงกัน แทนที่จะมาดูหมิ่นดูแคลนกัน ตามมาด้วยการโต้ตอบจากทรัมป
ในประเด็นนโยบายอัฟกานิสถาน แฮร์ริสกล่าวว่าตอนที่ทรัมป์อยู่ในตำแหน่ง เขาคือผู้ที่ทำข้อตกลงที่แย่ที่สุดด้วยการสนับสนุนให้กลุ่มตาลิบันขึ้นปกครองประเทศ นำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลอัฟกานิสถาน และอเมริกาต้องถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธสิ่งที่แฮร์ริสกล่าวหา