ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ความสัมพันธ์เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นเสี่ยงสั่นคลอน เพราะแอป ‘ไลน์’


ผู้ประท้วงในเกาหลีใต้สวมหน้ากากใบหน้าของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก ยอล ระหว่างเข้าร่วมการชุมนุมกรณีข้อพิพาทเรื่องแอป "ไลน์" ในกรุงโซล เมื่อ 14 พ.ค. 2567
ผู้ประท้วงในเกาหลีใต้สวมหน้ากากใบหน้าของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก ยอล ระหว่างเข้าร่วมการชุมนุมกรณีข้อพิพาทเรื่องแอป "ไลน์" ในกรุงโซล เมื่อ 14 พ.ค. 2567

ความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นกำลังเผชิญบททดสอบครั้งใหม่ หลังนักการเมืองเกาหลีใต้กล่าวหารัฐบาลญี่ปุ่นว่า ทำการกดดันอย่างไม่เหมาะสมให้บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ขายหุ้นของตนในแอปพลิเคชั่นไลน์ (Line) ที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมดิจิทัลของชาวญี่ปุ่นในเวลานี้

แอป “ไลน์” ซึ่งชาวไทยนิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย เปิดตัวในครั้งแรกในฐานะแอปส่งข้อความปกติ ก่อนจะกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเพื่อใช้งานต่าง ๆ ตั้งแต่จ่ายบิลไปจนถึงแชร์คลิปวิดีโอ

แอปดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท LY Corp ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมทุนระหว่างบริษัท Naver ของเกาหลีใต้และบริษัท Softbank Group ของญี่ปุ่น โดยมีที่ตั้งของสำนักงานอยู่ในกรุงโตเกียว

หน่วยงานกำกับกิจการของญี่ปุ่นได้เร่งเร้าให้ LY Corp ลดสัดส่วนหุ้นของตนที่ Naver ถืออยู่ หลังบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้แห่งนี้ตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์และเกิดการรั่วไหลครั้งใหญ่ของข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน Line ด้วย

แต่แม้คำขอของรัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็น “แนวทางปฏิบัติทางการบริหารจัดการ” ที่มีน้ำหนักพอควรสำหรับชุมชนธุรกิจของญี่ปุ่น โดยบริษัท Naver เองก็ยืนยันว่า ตนกำลังพิจารณา “ความน่าจะเป็นทุกอย่าง” อันรวมถึงการขายหุ้นของตนออกด้วยอยู่

ขณะที่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า การดำเนินการนี้มีจุดประสงค์ด้านความปลอดภัยของข้อมูล นักการเมืองและนักวิเคราะห์ข่าวของเกาหลีใต้แย้งว่า แผนงานนี้เป็นเหมือนการแทรกแซงการลงทุนในต่างประเทศของเกาหลีใต้ หรือกระทั่ง การริดรอนอธิปไตยทางดิจิทัลของเกาหลีใต้เลยทีเดียว

ประเด็นนี้ได้กลายมาเป็นเผือกร้อนสำหรับประธานาธิบดียูน ซุก ยอล ที่กำลังพยายามประสานความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นอยู่ เพื่อหวังหาแนวร่วมต้านความท้าทายที่มีร่วมกัน เช่น กรณีภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ทั้งยังทำให้นักการเมืองฝ่ายซ้ายออกมาโจมตีผู้นำรัฐบาลกรุงโซล ว่า ทำการ “ยอมแพ้ทางการทูต” และเปรียบเทียบเรื่องนี้กับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อันขมขื่นของประเทศเมื่อถูกญี่ปุ่นปกครองในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1940-1950 ด้วย

ปัญหาข้อพิพาทเรื่อง “ไลน์” นี้ปะทุขึ้น ก่อนที่ผู้นำอาวุโสของสองประเทศและของจีนจะร่วมการประชุมไตรภาคีครั้งแรกนับตั้งแต่เมื่อปี 2019 ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในปลายเดือนนี้

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นไว้ก่อนหน้านี้ว่า จีนอาจใช้เรื่องเวทีประชุมนี้ทำให้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นแตกแยกกัน หลังสองประเทศนี้หันมาร่วมมือใกล้ชิดขึ้นกับสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน เจฟฟรีย์ เจ. ฮออล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองญี่ปุ่นจากสถาบันศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคันดะ กล่าวว่า ข้อพิพาท Line/Naver นี้แทบไม่เป็นข่าวในญี่ปุ่นเลย ไม่เหมือนกับกรณีที่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานแอปนี้ถูกขโมยเมื่อปีที่แล้ว

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG