ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดนเดินทางถึงอิสราเอลในวันพุธ หลังการระเบิดครั้งใหญ่ที่โรงพยาบาลในกาซ่า ซึ่งฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามของความขัดแย้งต่างโทษกันไปมา ขณะที่ความตึงเครียดของสงครามอิสราเอลและฮามาสรุนเเรงขึ้นเรื่อย ๆ
การพบกันระหว่างไบเดนและนาทันยาฮูมีจุดประสงค์เพื่อส่งสัญญาณการสนับสนุนอิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรอันยาวนานของสหรัฐฯ
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวขณะอยู่ข้าง ๆ เนทันยาฮูว่า "ผมรู้สึกเสียใจและโกรธอย่างลึกซึ้งจากการระเบิดที่โรงพยาบาลในกาซ่าเมื่อวานนี้ และเท่าที่ผมเห็น มันดูเหมือนว่าเป็นฝีมือทีมคนอื่นไม่ใช่คุณ"
กำหนดการเดิมที่ไบเดนจะพบกับผู้นำอาหรับต้องถูกยกเลิกไป หลังข่าวการระเบิดที่โรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบีในกาซ่าซิตี้ ที่ฝ่ายปาเลสไตน์กล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึง 500 คน
กลุ่มติดอาวุธฮามาสกล่าวโทษอิสราเอลว่าเป็นผู้โจมตีโรงพยาบาลดังกล่าว โดยเรียกว่าเป็น "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่เผยให้เห็นอีกครั้งถึงโฉมหน้าของศัตรูผู้ก่ออาชญากรรมและรัฐบาลก่อการร้ายและฟาสซิสต์ของมัน"
ฮามาสกล่าวว่าส่วนใหญ่ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนับร้อย เป็นผู้ป่วย เด็ก สตรี และครอบครัวที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่เดิม
กองทัพอิสราเอล หรือไอดีเอฟ ( Israel Defense Forces) ปฏิเสธข้อกล่าวหาของฮามาส โดยระบุว่าโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบีในกาซ่าซิตี้โดนถล่มโดยจรวดที่ยิงหลงมาโดยกลุ่ม "อิสลามิก จิฮาด" แต่กลุ่มที่ว่านี้ก็ได้บอกปัดความรับผิดชอบเช่นกัน
โฆษกไอดีเอฟ พลเรือตรีเเดเนียล ฮาการีบอกผู้สื่อข่าวในวันพุธว่าลักษณะความเสียหายของโรงพยาบาลไม่เป็นไปตามรูปแบบที่จะเกิดขึ้นจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
ฮาการีกล่าวหาฮามาสว่ารายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากเกินจริง
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวยืนยันถึงความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอลว่า และกล่าวว่าจะทำให้มั่นใจว่าอิสราเอลจะได้สิ่งต่าง ๆ เพื่อการปกป้องตนเอง
เดิมทีไบเดนจะไปพบกับกษัตริย์อับดุลลาห์แห่งจอร์เเดนและประธานาธิบดีอียิปต์อับเดล-ฟาทาห์ เอล-ซิสซี ที่กรุงอัมมานของจอร์เเดน แต่หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลในกาซ่า ผู้นำอาหรับทั้งสองจึงยกเลิกความคิดที่จะมีการประชุมสุดยอดกับไบเดนและประธานาธิบดีของชาวปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส
ขณะเดียวกัน มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นจาก ริยาด มานซัวร์ ทูตประจำสหประชาชาติของชาวปาเลสไตน์ ที่ต้องการให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วยทำให้เกิดความตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสและอิสราเอล
ผู้นำสหภาพยุโรป ชาลส์ มิเชล กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การที่อิสราเอลตัดการเข้าถึงปัจจัยการดำรงชีพพื้นฐาน เช่นไฟฟ้า อาหารและนำ้สะอาด "ไม่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ"
เวลานี้ ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากในกาซ่าไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร เชื้อเพลิง หรือน้ำสะอาด หลังจากที่อิสราเอลปิดล้อมกาซ่าไว้ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มฮามาสโจมตีใส่อิสราเอลซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน และถูกจับไปเป็นตัวประกันเกือบ 200 คน รวมทั้งชาวต่างชาติจำนวนมาก
หลายวันที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงในฉนวนกาซ่า สังหารประชาชนไปมากกว่า 2,800 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 10,000 คน อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า
ชาวเมืองกาซ่าหลายแสนคนได้อพยพลงภาคใต้ตามคำเตือนของอิสราเอล ซึ่งกษัตริย์อับดุลลาห์แห่งจอร์แดน ตรัสในวันอังคารว่า การกดดันให้ชาวปาเลสไตน์ข้ามพรมแดนเข้าไปในจอร์เเดนหรืออียิปต์นั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง และทรงกำชับว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง
ทางด้านสหประชาชาติประเมินว่า เวลานี้ประชาชนส่วนใหญ่ในฉนวนกาซ่าไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มได้ และคาดว่ามีชาวปาเลสไตน์ราว 1 ล้านคนที่หนีลงใต้ ในจำนวนนี้ราว 400,000 คนหลบภัยอยู่ในสถานที่ที่สหประชาชาติจัดหาไว้ให้
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี รอยเตอร์ เอเอฟพี