รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวในวันอังคารว่า การยึดเมืองบาคห์มุตของยูเครนได้เป็นหมากสำคัญในการเดินหน้าแผนการโจมตีรุกคืบเข้าไปในแคว้นดอนบาส ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยืนยันที่จะตั้งมั่นปกป้องเมืองดังกล่าวทางภาคตะวันออกของประเทศต่อไป
เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย กล่าวระหว่างประชุมกับเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพมอสโกว่า เมืองบาคห์มุตนั้นเป็นศูนย์กลางการรบเชิงรับที่สำคัญสำหรับกองกำลังยูเครน และว่า การยึดพื้นที่เมืองนี้ได้จะเปิดทางให้กำลังทหารรัสเซียรุกคืบ “เข้าไปในแนวป้องกันของยูเครนได้”
ก่อนหน้านั้น ในการแถลงข่าวรายวันเมื่อคืนวันจันทร์ ปธน.เซเลนสกี ระบุว่า ผู้บัญชาการทหารยูเครนมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะไม่ถอนกำลังออกจากบาคห์มุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรบรุนแรงมาหลายเดือนแล้ว
ผู้นำยูเครนกล่าวว่า “ผมแจ้งกับผู้นำทัพให้หากองกำลังที่เหมาะสมมาช่วยในการสู้รบที่บาคห์มุตแล้ว” และว่า “ไม่มีส่วนใดของยูเครนที่จะมีคนสามารถพูดได้ว่า ถูกละทิ้งไป ... ไม่มีสนามเพลาะใดของยูเครนที่(เป็นที่ตั้งของ)ความยืดหยุ่นในการฟื้นตัวขึ้นมาและความเป็นวีรบุรุษของเหล่านักรบจะถูกมองข้ามเป็นอันขาด”
ทั้งนี้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า เมืองบาคห์มุตนั้นเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าเชิงสัญลักษณ์มากกว่าคุณค่าเชิงยุทธศาสตร์และปฏิบัติการสำหรับยูเครน ดังนั้น ถึงรัสเซียจะประสบความสำเร็จในการยึดเมืองนี้ไปได้ ทิศทางของสงครามที่ดำเนินมากว่าปีนี้ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
และในช่วงที่การสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซียยังเดินหน้าอยู่นี้ อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันพุธ เพื่อร่วมประชุมกับปธน.เซเลนสกีและหารือเกี่ยวกับการเดินหน้าส่งออกธัญพืชของยูเครนไปยังประเทศยากจนทั้งหลาย ซึ่งเกิดขึ้นได้หลังรัสเซียยอมตกลงเมื่อปีที่แล้วที่จะเปิดทางให้เรือขนส่งของยูเครนล่องผ่านทะเลดำได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ ข้อตกลงนี้จะหมดอายุลงในวันที่ 18 มีนาคมนี้แล้ว
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพีและรอยเตอร์
