หากไม่มีการผลิกโผ การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่มีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. จะเปลี่ยนดุลอำนาจในการเมืองอเมริกัน และมีส่วนกำหนดทิศทางของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดนในสองปีข้างหน้า ที่รัฐบาลของเขาจะหมดสมัยลง
เว็บไซต์ที่ได้รับการยอมรับจากสื่อการเมืองสหรัฐฯ FiveThirtyEight.com ซึ่งรวบรวมผลโพลล์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ร้อยละ 83 ที่พรรคเดโมเเครตจะสูญเสียการครองเสียงข้างมากในสภาผู้เเทนราษฎร ให้กับรีพับลิกัน
และเดโมเเครตมีความเสี่ยงร้อยละ 55 ที่จะสูญเสียการครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ในสภาผู้เเทนราษฎร FiveThirtyEight.com พยากรณ์ว่า เดโมเเครตจะเสียที่นั่ง 13 ที่ให้กับรีพับลิกัน ซึ่งเพียงพอที่จะให้ รีพับลิกันกลายมาเป็นผู้ครองเสียงข้างมาก ในขณะที่คาดว่า ดุลอำนาจของการคุมเสียงเกินกึ่งหนึ่งในวุฒิสภาจะสลับจากเดโมเเครตมาสู่รีพับลิกันมาเป็น 51 ต่อ 49 จากเดิมที่อยู่ที่ 50 ต่อ 50 ซึ่งฝ่ายเดโมเเครตได้เปรียบจากอีก 1 คะเเนนของรองประธานาธิบดีจากพรรคเดียวกัน
อีกเว็บไซต์ที่สื่อการเมืองมักอ้างอิงสถิติ คือ RealClearPolitics.com โดยเว็บนี้คาดว่า รีพับลิกันจะได้ที่นั่งเพิ่มในวุฒิสภา 3 ที่นั่ง และอาจเพิ่มจำนวนส.ส.ของพรรคในสภาผู้เเทนได้ 14 ถึง 48 ที่นั่ง
ความน่าสนใจจากนี้ คือ ต้องดูว่าสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจลงคะเเนนให้ผู้ลงเเข่งเป็นส.ส. และ ส.ว. จะได้รับการตอบสนองเมื่องานในสภาชุดใหม่เริ่มต้นในเดือนมกราคม หรือไม่
ในเวลานี้เรื่องที่สำคัญต่อคนอเมริกันคือเศรษฐกิจ โดยสำนักทำโพลล์ Pew Research ระบุว่า กว่า 3 ใน 4 ของผู้ตอบเเบบสอบถาม คิดว่า ความกังวลอันดับหนึ่งของพวกเขาในการลงคะเเนนเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้คือเรื่องเศรษฐกิจ
ส.ส. พรรครีพับลิกัน เควิน เเมคคาร์ธีย์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้เเทนราษฎร กล่าวว่า ถ้าพรรคของเขาพลิกมาเป็นเสียงข้างมาก เขาจะมีนโยบายลดการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนสนับสนุน นอกจากนั้นจะยังสอดส่องการใช้เงินในโครงการที่ช่วยเหลือยูเครน ที่ถูกรัสเซียรุกรานเมื่อเดือนก.พ.
ส.ส.เเมคคาร์ธีย์ กล่าวว่า รีพับลิกันจะไม่ยอม 'ตีเช็คเปล่า' ในการใช้เงินที่เกี่ยวกัยยูเครน โดยไม่มีการวิเคราะห์มากขึ้นว่าสิ่งที่ยูเครนต้องการจริง ๆ มีอะไรบ้าง
นอกจากนี้ นักการเมืองรีพับลิกันคนอื่น ๆ เคยให้คำมั่นว่า จะตรวจสอบรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรื่องการหลั่งไหลของผู้อพยพเข้าอเมริกาทางด้านใต้ของประเทศโดยไม่มีเอกสารรองรับ
การตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ของ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของโจ ไบเดน ที่มีในประเทศยูเครนและจีนก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รีพับลิกันให้ความสนใจ แม้ว่า อัยการสหรัฐฯ เคยตรวจสอบกิจกรรมทางธุรกิจของฮันเตอร์ ไปเเล้วแต่มิได้ตั้งข้อหาใด ๆ
หากมองต่อไปอีก 2 ปีจากนี้ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผูกโยงกับการเลือกตั้งกลางเทอมเช่นกัน
ความตื่นตัวทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ มาพร้อมกับสัญญาณของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน ที่บอกว่า อีกไม่กี่วันจากนี้ ตนอาจเริ่มรณรงค์หาเสียงเป็นตัวเเทนพรรคเพื่อลงเเข่งเป็นประธานาธิบดีอเมริกันอีกสมัยในปีค.ศ. 2024
ส่วนประธานาธิบดีไบเดน เขาเคยกล่าวว่า มีแผนที่จะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยในปี ค.ศ. 2024 เช่นกันเเต่ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย
- ที่มา: วีโอเอ