เหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะสูญเสียความเป็นผู้นำเสียงข้างมากในสภาคองเกรสแล้ว ด้วยเหตุนี้ ทางพรรคจึงหันไปหาอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา เพื่อหวังช่วยดึงคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
อดีตปธน.โอบามา เดินทางไปรัฐจอร์เจียในวันศุกร์ ก่อนจะไปต่อที่รัฐวิสคอนซิน รัฐเนวาดา และรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งล้วนเป็นสมรภูมิสำคัญสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โดยพื้นที่ทั้ง 4 รัฐที่ว่านี้ เป็นเขตที่มีการแข่งขันสูงมากสำหรับเก้าอี้ในสภาสูง โดยผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันนั้นกำลังเริ่มมีชัยได้เปรียบอยู่
หากพรรครีพับลิกันสามารถพลิกกลับมาเป็นผู้นำเสียงข้างมากในทั้งสองสภาได้ ก็จะสามารถทำการยับยั้งวาระแผนงานทั้งหลายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สกัดกั้นผู้ที่ปธน.ไบเดนเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งตุลาการศาลสูง รวมทั้งทำการสอบสวนรัฐบาลชุดปัจจุบันได้อย่างอิสระ
ข้อมูลการสำรวจจาก รอยเตอร/อิปซอส (Reuters/Ipsos) แสดงให้เห็นว่า คะแนนความนิยมในตัวปธน.ไบเดนอยู่ในระดับต่ำที่ราว 39% ซึ่งทำให้อดีตปธน.โอบามาต้องมารับหน้าที่ช่วยดันคะแนนนิยมในตัวพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายนี้
เจคอบ รูแบชกิน นักวิเคราะห์ด้านการเลือกตั้งจากหน่วยงาน Inside Elections ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า อดีตปธน.โอบามา คือ ทูตที่จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าปธน.ไบเดนในรัฐสมรภูมิ เนื่องจากความนิยมในอดีตผู้นำที่ยังดีอยู่และเป็นเพราะโอบามาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นต่าง ๆ ในปัจจุบันที่ผู้มีสิทธิ์ใช้เสียงกังวลอยู่
นอกจากพื้นที่ 4 รัฐข้างต้นแล้ว อดีตปธน.โอบามา จะเดินทางไปยังรัฐมิชิแกน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐคนใหม่ด้วย
ด้วยภาวะกดดันจากความกังวลของประชาชนในเรื่องเงินเฟ้อและสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ปธน.ไบเดน ไม่ค่อยปรากฏตัวในกิจกรรมหาเสียงของพรรคมากเท่าใดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นว่าทั้งอดีตปธน.โอบามา และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาช่วยพรรคหาเสียงหลายสิบครั้งในช่วงปีที่ 2 ของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ
อย่างไรก็ดี อดีตปธน.ทั้งสองไม่ประสบความสำเร็จในการหาเสียงมาก เพราะพรรคของตนต่างเสียเก้าอี้ให้ฝ่ายตรงข้ามในการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งสถิติดังกล่าวกลายมาเป็นสิ่งตอกย้ำกระแสต้านทางการเมืองที่ปธน.ไบเดน กำลังเผชิญหน้าได้อย่างดี
รายงานข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดน มีแผนจะลงพื้นที่หาเสียงในรัฐฟลอริดาในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วย ชาร์ลี คริสต์ ที่ลงสมัครท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจาก รอน เดอซานติส ที่ถูกมองว่า น่าจะเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2024 โดยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่รัฐนี้แล้ว ปธน.ไบเดน จะเดินทางไปร่วมกับอดีตปธน.โอบามา ในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันที่ 5 พฤศจิกายนต่อไป
รอยเตอร์ วิเคราะห์ว่า เป้าหมายของการร่วมหาเสียงของอดีตปธน.โอบามา ก็คือ การกระตุ้นกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่หนุนพรรคเดเมแครต เช่น กลุ่มคนผิวสี ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี รวมทั้ง ผู้มีเชื้อสายละตินและผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่อายุยังน้อยอยู่ มาใช้สิทธิ์กันให้เต็มที่ ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นความท้าทายไม่น้อยเมื่อดูจากสถิติในอดีต ที่คนไม่ค่อยออกมาลงคะแนนเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากกลุ่ม U.S. Elections Project ระบุว่า จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งระดับประเทศทำสถิติสูงสุดติดต่อกันในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยในการเลือกตั้งปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าแล้วถึงกว่า 12 ล้านคน
- ที่มา: รอยเตอร์