ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เดโมแครตหันหาพึ่ง ‘โอบามา’ ช่วยหาเสียงเลือกทั้งกลางเทอม


President Joe Biden and former President Barack Obama arrive in the East Room of the White House in Washington, Sept. 7, 2022, for the unveiling of the official White House portraits of the former president and his wife.
President Joe Biden and former President Barack Obama arrive in the East Room of the White House in Washington, Sept. 7, 2022, for the unveiling of the official White House portraits of the former president and his wife.

เหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะสูญเสียความเป็นผู้นำเสียงข้างมากในสภาคองเกรสแล้ว ด้วยเหตุนี้ ทางพรรคจึงหันไปหาอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา เพื่อหวังช่วยดึงคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

อดีตปธน.โอบามา เดินทางไปรัฐจอร์เจียในวันศุกร์ ก่อนจะไปต่อที่รัฐวิสคอนซิน รัฐเนวาดา และรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งล้วนเป็นสมรภูมิสำคัญสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โดยพื้นที่ทั้ง 4 รัฐที่ว่านี้ เป็นเขตที่มีการแข่งขันสูงมากสำหรับเก้าอี้ในสภาสูง โดยผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันนั้นกำลังเริ่มมีชัยได้เปรียบอยู่

หากพรรครีพับลิกันสามารถพลิกกลับมาเป็นผู้นำเสียงข้างมากในทั้งสองสภาได้ ก็จะสามารถทำการยับยั้งวาระแผนงานทั้งหลายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สกัดกั้นผู้ที่ปธน.ไบเดนเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งตุลาการศาลสูง รวมทั้งทำการสอบสวนรัฐบาลชุดปัจจุบันได้อย่างอิสระ

ข้อมูลการสำรวจจาก รอยเตอร/อิปซอส (Reuters/Ipsos) แสดงให้เห็นว่า คะแนนความนิยมในตัวปธน.ไบเดนอยู่ในระดับต่ำที่ราว 39% ซึ่งทำให้อดีตปธน.โอบามาต้องมารับหน้าที่ช่วยดันคะแนนนิยมในตัวพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

เจคอบ รูแบชกิน นักวิเคราะห์ด้านการเลือกตั้งจากหน่วยงาน Inside Elections ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า อดีตปธน.โอบามา คือ ทูตที่จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าปธน.ไบเดนในรัฐสมรภูมิ เนื่องจากความนิยมในอดีตผู้นำที่ยังดีอยู่และเป็นเพราะโอบามาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นต่าง ๆ ในปัจจุบันที่ผู้มีสิทธิ์ใช้เสียงกังวลอยู่

นอกจากพื้นที่ 4 รัฐข้างต้นแล้ว อดีตปธน.โอบามา จะเดินทางไปยังรัฐมิชิแกน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐคนใหม่ด้วย

ด้วยภาวะกดดันจากความกังวลของประชาชนในเรื่องเงินเฟ้อและสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ปธน.ไบเดน ไม่ค่อยปรากฏตัวในกิจกรรมหาเสียงของพรรคมากเท่าใดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นว่าทั้งอดีตปธน.โอบามา และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาช่วยพรรคหาเสียงหลายสิบครั้งในช่วงปีที่ 2 ของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ

อย่างไรก็ดี อดีตปธน.ทั้งสองไม่ประสบความสำเร็จในการหาเสียงมาก เพราะพรรคของตนต่างเสียเก้าอี้ให้ฝ่ายตรงข้ามในการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งสถิติดังกล่าวกลายมาเป็นสิ่งตอกย้ำกระแสต้านทางการเมืองที่ปธน.ไบเดน กำลังเผชิญหน้าได้อย่างดี

รายงานข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดน มีแผนจะลงพื้นที่หาเสียงในรัฐฟลอริดาในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วย ชาร์ลี คริสต์ ที่ลงสมัครท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจาก รอน เดอซานติส ที่ถูกมองว่า น่าจะเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2024 โดยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่รัฐนี้แล้ว ปธน.ไบเดน จะเดินทางไปร่วมกับอดีตปธน.โอบามา ในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันที่ 5 พฤศจิกายนต่อไป

รอยเตอร์ วิเคราะห์ว่า เป้าหมายของการร่วมหาเสียงของอดีตปธน.โอบามา ก็คือ การกระตุ้นกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่หนุนพรรคเดเมแครต เช่น กลุ่มคนผิวสี ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี รวมทั้ง ผู้มีเชื้อสายละตินและผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่อายุยังน้อยอยู่ มาใช้สิทธิ์กันให้เต็มที่ ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นความท้าทายไม่น้อยเมื่อดูจากสถิติในอดีต ที่คนไม่ค่อยออกมาลงคะแนนเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากกลุ่ม U.S. Elections Project ระบุว่า จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งระดับประเทศทำสถิติสูงสุดติดต่อกันในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยในการเลือกตั้งปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าแล้วถึงกว่า 12 ล้านคน

  • ที่มา: รอยเตอร์
XS
SM
MD
LG