ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวในวันอังคารที่กรุงวอชิงตันว่า ตนจะลงนามในกฎหมายมอบสิทธิการทำแท้งให้แก่คนอเมริกันทั่วประเทศในเดือนมกราคมนี้ หากพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมและครองรัฐสภาต่อไปในปีหน้า
เวลานี้ ปธน.ไบเดน พยายามรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคเดโมแครตก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า โดยชูประเด็นเรื่องสิทธิในการทำแท้งเสรีภายใต้คำตัดสิน Roe v. Wade ซึ่งถูกศาลสูงสหรัฐฯ คว่ำไปเมื่อเกือบสี่เดือนก่อน
ทั้งนี้ หากมีสมาชิกพรรคเดโมแครตได้รับเลือกเข้ามานั่งในวุฒิสภามากขึ้น ขณะที่พรรคนี้ยังสามารถครองสภาผู้แทนราษฎรต่อไปได้ ปธน.ไบเดน ยืนยันว่าตนจะลงนามให้คำตัดสิน Roe v. Wade อยู่ในประมวลกฎหมายในเดือนมกราคม เพื่อปกป้องสิทธิในการทำแท้งเสรี
ผู้นำสหรัฐฯ สัญญาว่า ร่างกฎหมายแรกที่ตนจะส่งให้รัฐสภาสหรัฐฯ พิจารณา คือการประมวล Roe v. Wade นอกจากนี้ไบเดนยังกระตุ้นให้ชาวอเมริกันออกมาช่วยกันลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ด้วย
เมื่อเดือนมิถุนายน ศาลสูงสหรัฐฯ วินิจฉัยพลิกคำตัดสินเมื่อปี ค.ศ. 1973 หรือเมื่อ 49 ปีก่อน ในคดี Roe v. Wade ถือเป็นการคว่ำคำตัดสินในอดีตที่เคยให้สิทธิตามรัฐธรรมนูญต่อสตรีในการทำเเท้งในช่วงเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา และทำให้การตัดสินใจเรื่องสิทธิการทำแท้งเป็นเรื่องของเเต่ละรัฐต่อไปจากนี้
ภายหลังคำตัดสินนี้ 16 รัฐในสหรัฐฯ ต่างมีคำสั่งห้ามการทำแท้งภายในรัฐดังกล่าวทันที
ปัจจุบัน เดโมแครตครองเสียงข้างมากแบบปริ่มน้ำในสภาผู้แทนราษฎร และมีเสียงเท่ากับพรรครีพับลิกัน คือ 50-50 ในวุฒิสภา โดยมีรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในกรณีที่ผลโหวตมีคะแนนเสียงเท่ากัน
การผ่านร่างกฎหมายในวุฒิสภาสหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียงอย่างน้อย 60 เสียงขึ้นไป ทำให้เป็นเรื่องยากที่ประธานาธิบดีไบเดนและพรรคเดโแมครตจะผลักดันให้มีการประมวล Roe v. Wade เป็นกฎหมายได้
นักวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่า คำตัดสินของศาลสูงสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธสิทธิในการทำเเท้ง อาจส่งผลให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้นในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายน เมื่อชาวอเมริกันจะเลือกสมาชิกผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ในสภา
ทั้งนี้ ผลโพลล์ของ Politico/Morning Star ที่สำรวจความเห็นประชาชนหลังการประกาศคำตัดสินของศาลสูง ชี้ว่า 40% ของชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการคว่ำคำตัดสิน Roe v. Wade รวมถึงการพิจารณาว่าสิทธิการทำแท้งของประชาชนจะเป็นไปตามกฎหมายของเเต่ละรัฐ
นอกจากนี้ รายงานผลสำรวจความเห็นประชาชนหลายโพลล์ ระบุว่า ประมาณ 70% ของชาวอเมริกันสนับสนุนให้มีการทำเเท้งได้ตามกฎหมายในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชี้ว่า ขณะนี้คนอเมริกันให้ความสำคัญกับปัญหาเงินเฟ้อมากกว่าประเด็นอื่น โดย 27% ระบุว่า เงินเฟ้อคือประเด็นที่จะส่งอิทธิพลต่อการลงคะแนนเสียงของพวกตนมากที่สุดในการเลือกตั้งกลางเทอม เทียบกับ 8% ที่บอกว่าเป็นเรื่องสิทธิในการทำแท้งเสรี
โดยในกลุ่มสตรีที่นิยมพรรคเดโมแครตเอง 20% บอกว่าประเด็นเรื่องทำแท้งเสรีสำคัญที่สุด ขณะที่ 22% บอกว่าเป็นประเด็นเรื่องเงินเฟ้อ
- ที่มา: รอยเตอร์