เกิดฟองอากาศจำนวนมากผุดขึ้นกลางทะเลบอลติก ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากเหตุวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมของรัสเซีย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารว่า "กำลังมีการตรวจสอบฟองอากาศและการรั่วไหลนี้ โดยรายงานเบื้องต้นชี้ว่าอาจเป็นผลจากการโจมตีหรือการก่อวินาศกรรม" และว่า "หากมีการยืนยันว่าเป็นการโจมตีจริง ก็ไม่มีใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้"
ด้านโฆษกทำเนียบขาว คารีน ฌอง-ปิแอร์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุของเรื่องนี้ได้
ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 ความยาว 1,222 กม. ถือเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรป ขณะที่ท่อนอร์ดสตรีม 2 ความยาว 1,234 กม. ยังไม่ได้เปิดใช้เพื่อการพาณิชย์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติสวีเดน กล่าวในวันอังคารว่า ได้เริ่มการสืบสวนการรั่วไหลครั้งนี้แล้วภายใต้ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจเกิดจากการก่อวินาศกรรมที่ท่อนอร์ดสตรีม 1 ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมตต์ เฟรเดริกเซ่น ระบุว่า "มีจุดที่รั่ว 3 จุด ดังนั้นจึงยากที่จะเชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุ
ส่วนนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มาเทอูซ โมราเวียชกิ กล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าเป็นการก่อวินาศกรรม ซึ่งถือเป็นการยกระดับสถานการณ์ในยูเครน"
ทางด้านโฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ ระบุว่า "ทุกทางเลือกยังมีโอกาสเป็นไปได้" รวมถึงการก่อวินาศกรรมใต้ทะเลด้วย
ทั้งนี้ รัสเซียสั่งปิดท่อนอร์ดสตรีม 1 เมื่อต้นเดือนนี้ โดยอ้างว่าเป็นการซ่อมบำรุงตามกำหนด
หนึ่งครั้งคืออุบัติเหตุ สองครั้งคือความบังเอิญ สามครั้งคือการกระทำของศัตรูฮาเวียร์ บลาส คอลัมนิสต์ของบลูมเบิร์ก ยกคำพูดของนักเขียนอังกฤษ เอียน เฟลมมิ่ง
บริษัท นอร์ดสตรีม เอจี (Nord Stream AG) ผู้ดูแลท่อก๊าซนี้ซึ่งมีบริษัทพลังงานของรัสเซีย ก๊าซพรอม (Gazprom) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กล่าวว่า ความเสียหายต่อเครือข่ายท่อนอร์ดสตรีมทั้งสามจุดในวันเดียวกันเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังไม่สามารถประเมินเวลาที่จะต้องใช้ในการซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานใหม่ได้
แถลงการณ์ของกองทัพเดนมาร์กระบุว่า จุดรั่วไหลขนาดใหญ่ที่สุดนั้นพ่นฟองอากาศออกมาเป็นรัศมีราวหนึ่งกิโลเมตร ส่วนจุดที่เล็กที่สุดนั้นมีรัศมีราว 200 เมตร ส่วนนักวิยาศาสตร์ในยุโรปเปิดเผยว่า เกิดแรงระเบิดครั้งใหญ่ใต้ทะเลบอลติกเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่แรงดันของท่อส่งก๊าซทั้งสองเส้นลดลงอย่างรวดเร็ว
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า การรั่วไหลครั้งนี้คือการส่งสัญญาณว่า รัสเซียกำลังจะเปิดแนวรบด้านใหม่ คือสงครามพลังงานกับทางยุโรป ขณะที่ มีไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า การรั่วไหลดังกล่าวเป็นผลมาจาก "การโจมตีของผู้ก่อการร้าย" และ "การกระทำที่ก้าวร้าว" ต่อสหภาพยุโรป
ฮาเวียร์ บลาส คอลัมนิสต์ของบลูมเบิร์ก ยกคำพูดของนักเขียนอังกฤษ เอียน เฟลมมิ่ง มาว่า "หนึ่งครั้งคืออุบัติเหตุ สองครั้งคือความบังเอิญ สามครั้งคือการกระทำของศัตรู"
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์ มีการเผยแพร่วิดีโอของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ว่า ท่อนอร์ดสตรีม 2 "จะถึงจุดจบ" หากรัสเซียบุกรุกยูเครน
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เชื่อว่า การรั่วไหลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคพลังงานของยุโรปมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมายุโรปลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียและหันไปใช้พลังงานสะอาดแทนเป็นปริมาณมาก
ส่วนทางองค์กรสิ่งแวดล้อมต่างแสดงความกังวลว่า ก๊าซธรรมชาติที่รั่วไหลออกมาอาจส่งผลรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำในบริเวณนั้น
- ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์
