ฝรั่งเศสกล่าวหารัฐบาลรัสเซียว่า ใช้การส่งพลังงานเป็น "อาวุธสงคราม" หลังจากที่บริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) ของรัฐบาลรัสเซีย ลดการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป และเตรียมระงับการส่งก๊าซผ่านท่อขนส่งไปยังเยอรมนีตั้งแต่วันพุธนี้ด้วย
เวลานี้ รัฐบาลยุโรปหลายประเทศกำลังพยายามหาทางรับมือกับราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือนต่าง ๆ และหาแหล่งพลังงานทางเลือกนอกเหนือจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซียในช่วงฤดูหนาวปีนี้
บรรดาประเทศตะวันตกต่างเกรงว่า รัสเซียกำลังพยายามให้ราคาพลังงานโลกสูงขึ้นเพื่อลดความสามารถของชาติตะวันตกในการต้านทานการรุกรานของรัสเซียในยูเครน ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกว่าเป็น "การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ" แต่ทางรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันนอร์ดสตรีม 1 (Nord Stream 1) ซึ่งใช้ส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป ได้กลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการทำสงครามทางเศรษฐกิจระหว่างรัสเซียกับสหภาพยุโรป โดยก่อนหน้านี้ บริษัทก๊าซพรอมได้เตือนไปยังประเทศในยุโรปแล้วว่า จะมีการระงับการส่งก๊าซชั่วคราวระหว่างวันพุธถึงวันศุกร์นี้เพื่อซ่อมบำรุงท่อก๊าซ
โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ กล่าวในวันอังคารว่า ปัญหาทางเทคนิคที่เกิดจากมาตรการลงโทษของชาติตะวันตก คืออุปสรรคสำคัญเดียวที่ขัดขวางการขนส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1
แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานฝรั่งเศส แอกเนส ปานนิเยร์-รูนาเชยร์ (Agnes Pannier-Runacher) กล่าวในวันอังคารว่า "เป็นที่ชัดเจนว่ารัสเซียใช้การส่งก๊าฐเป็นอาวุธในสงคราม และเราต้องเตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเมื่อเกิดปัญหาขัดขวางกระบวนการขนส่ง"
ที่ผ่านมา รัสเซียส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1 ในระดับ 20% ของความสามารถทั้งหมดที่ส่งได้ และเกิดความกังวลว่าการระงับการขนส่งในสัปดาห์นี้อาจถูกขยายเวลาออกไป แม้ทางการรัสเซียยืนยันว่า ไม่มียันแอบแฝงในการระงับการขนส่งครั้งนี้นอกเหนือจากปัญหาทางเทคนิคที่ระบุไป
รัฐมนตรีพลังงานของสหภาพยุโรปมีกำหนดหารือกันในวันที่ 9 กันยายนนี้ เกี่ยวกับวิกฤติพลังงานในยุโรป โดยมีรายงานว่าทางเยอรมนีมีท่าทีเปิดกว้างที่จะหารือเรื่องการกำหนดราคาขั้นสูงสำหรับก๊าซธรรมชาติที่ขายในยุโรปด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์