ชาวรัสเซียเผชิญช่วงยากลำบากแม้รอดพ้นหายนะทางเศรษฐกิจ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประชาชนรัสเซียจำนวนหนึ่งกำลังประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต เเม้เศรษฐกิจรัสเซียจะรอดพ้นภาวะวิกฤตขั้นสุดที่หลายคนคาดการณ์ หลังการบุกยูเครนเมื่อง 6 เดือนก่อน

สัญญาณภาพรวมทางเศรษฐกิจของรัสเซียขณะนี้ ชี้ให้เห็นถึงสภาวะที่ดีกว่าหลายคนคาดคิด

นักวิเคราะห์เคยพยากรณ์ว่าจีดีพีของรัสเซียอาจหดตัวกว่า 12% ในปีนี้ ซึ่งจะถือว่าร้ายเเรงกว่าตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย เเต่ขณะนี้กระทรวงเศรษฐกิจของรัสเซียคาดว่าการหดตัวจะอยู่ที่ 4.2%

รอยเตอร์รายงานว่ารัสเซียสามารถเลี่ยงหายนะทางเศรษฐกิจได้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูง โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินดำเนินตามคำมั่นที่จะลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำด้วยการนำรายได้จากนำ้มันมาใช้ในโครงการต่าง ๆ

รายได้จากพลังงานเป็นส่วนหนึ่งที่รัสเซียนำมาบรรเทาแรงกดดันจากมาตรการลงโทษขนานใหญ่จากนานาชาติ และปัญหาเงินเฟ้อ

อะเล็กเซย์ เฟอร์ซอฟ ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยนโยบาย Platforma กล่าวว่า "เท่าที่ผ่านมา ไม่พบสัญญาณการลดลงของมาตรฐานการดำรงชีวิตที่รุนเเรงพอที่จะนำไปสู่ความปั่นป่วน (ทางสังคมในรัสเซีย)"

ในช่วง 7 เดือนเเรกของปีนี้รัสเซียได้ดุลบัญชีเงินเดินสะพัด 166,600 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกว่าสามเท่าของมูลค่าในช่วงเดียวกันปีก่อน เมื่อรายได้เพิ่มขึ้นเเละการนำเข้าสินค้าหดตัวรุนเเรงท่ามกลางมาตรการลงโทษ

ประธานาธิบดีปูติน สั่งปรับพิ่มเงินบำนาญและค่าเเรงขั้นต่ำ 10% เพื่อลดผลกระทบจากเงินเฟ้อ และพนักงานองค์กรขนาดใหญ่เช่น ธนาคารอันดับหนึ่งของรัสเซีย Sberbank และ บริษัทน้ำมัน Gazprom รับเงินเดือนเพิ่ม

ขณะเดียวกันอัตราคนว่างงานเดือนมิถุนายน ลดลงมาอยู่ระดับ 3.9% ตำ่สุดตั้งแต่เริ่มเปิดเผยข้อมูลในปี 1992 ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างอิงสถิติจาก Eikon

และ ในเดือนกรกฎาคม ความนิยมในตัวประธานาธิบดีปูติน เพิ่มขึ้น 10% จากตอนที่รัสเซียบุกยูเครน มาอยู่ที่ 83% ตามผลการสำรวจขององค์กรอิสระ Levada Centre

เงินเฟ้อของรัสเซียที่พุ่งไปที่ 17.8% เมื่อเดือนเมษายน ถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 20 ปี เมื่อค่าเงินรูเบิลอ่อนค่ารุนเเรงเทียบกับดอลลาร์

แต่เมื่อรัสเซียออกมาตรการควบคุมการเงิน รูเบิลเเข็งค่าขึ้นกว่า 25% หากนับตั้งเเต่ต้นปี และเป็นค่าเงินที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นที่สุดในโลกปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวทำให้รัสเซียมีเครื่องมือจัดการเงินเฟ้อ และหยุดยั้งความเเตกตื่นของประชาชน

ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าอิมิล วัย 33 ปี ที่มอสโกวบอกกับรอยเตอร์ว่า "คนยังใช้ชีวิตผ่อนคลาย ออกไปทานข้าว ไปเที่ยวนอกบ้าน ใช้เงินเหมือนในอดีต"

แต่ยังมีประชาชนที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการขาดแคลนสินค้าจำเป็น เช่น ยารักษาโรคและอะไหล่รถยนต์ ตามรายงานของรอยเตอร์

ลาริซา คนวัยเกษียณอายุ 65 ปีจากเมืองเบลกอรอดใกล้ชายเเดนยูเครนกล่าวถึงราคาสินค้าที่ต้องซื้อเเพงขึ้น 30%โดยรวม ซึ่งบางรายการกลายเป็นสินค้าเกินฐานะของตน

ตัวเลขของผู้ให้บริการด้านสถิติ Rosstat ระบุว่า ราคาผ้าอนามัยที่รัสเซียเเพงขึ้น 41% จากปีที่เเล้ว ส่วนราคารถที่ไม่ได้ประกอบในรัสเซียสูงขึ้น 39% และคนต้องจ่ายเงินซื้อกระดาษชำระที่ราคาสูงขึ้น 27%

สตรีลูกสอง ทาทินา ลาซาร์ วัย 33 ปีผู้มีอาชีพทำขนม กล่าวว่าเธอต้องต้องประหยัดมากขึ้น และไม่คิดว่าราคาสินค้าจะลดลง

นอกจากนี้ หน่วยงานทำสำรวจความเห็นประชาชนของรัฐบาลรัสเซีย VTsIOM ระบุว่า 64% ไม่มีเงินเก็บสะสมเพื่อออมทรัพย์ ณ กลางเดือนกุมภาพันธ์

• ที่มา: รอยเตอร์