ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน กล่าวปราศรัยในวันอังคารในโอกาสครบรอบ 64 ปีการเผชิญหน้าระหว่างกองทัพไต้หวันกับกองทัพของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งไต้หวันสามารถขับไล่ทหารจีนออกไปได้
ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้หลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.แนนซี เพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยจีนได้เริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวันเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจในสิ่งที่จีนมองว่าเป็นการแทรกแซงของสหรัฐฯ ต่อกิจการภายในของจีน
ปธน.ไช่ กล่าวต่อบรรดาผู้นำของกองทัพไต้หวัน เชิดชู "จิตวิญญาณ" ในการปกป้องไต้หวันจากการโจมตีของกองทัพจีนบริเวณเกาะจินเหมินและเกาะหมาจู่ของไต้หวัน ซึ่งกินเวลานานกว่าหนึ่งเดือนเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 1958
"การต่อสู้ในครั้งนั้นช่วยปกป้องไต้หวันไว้ได้ และถือเป็นการประกาศต่อโลกว่า ไม่มีภัยคุกคามใดสั่นคลอนความมุ่งมั่นของชาวไต้หวันในการปกป้องผืนแผ่นดินของเรา" ปธน.ไช่ กล่าวด้วยว่า "ใครก็ตามที่รุกรานไต้หวัน หรือพยายามบุกรุกไต้หวัน จะต้องชดให้อย่างหนัก และจะต้องถูกประณามจากประชาคมโลก"
"ในการต่อสู้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 64 ปีที่แล้ว ทหารและพลเรือนไต้หวันได้ร่วมมือร่วมใจกันปกป้องไต้หวัน ทำให้เรามีประชาธิปไตยจนถึงทุกวันนี้" ผู้นำไต้หวันกล่าว
ไต้หวันต่อสู้ในครั้งนั้นโดยได้รับความช่วยเหลือด้านอาวุธจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ในการต่อสู้กับกองทัพจีน
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร ปธน.ไช่ ได้พบหารือกับอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคน รวมถึง แมทท์ พอททิงเกอร์ อดีตรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ เจมส์ โอ เอลลิส อดีตนายพลกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งยืนยันถึงภารกิจของสหรัฐฯ ในการช่วยปกป้องไต้หวันจากการรุกราน ภายใต้กฎหมาย Taiwan Relations Act ของรัฐบาลอเมริกัน
ปธน.ไช่ กล่าวว่า "ในขณะที่ไต้หวันยืนประจัญในแนวหน้าเพื่อต่อสู้กับการขยายลัทธิอำนาจนิยม ไต้หวันก็ได้เพิ่มศักยภาพในการป้องกันประเทศไปพร้อมกัน และจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในส่วนนี้" และว่า ประเทศพันธมิตรทางประชาธิปไตยควรร่วมมือกันเพื่อปกป้องการแรกแซงของรัฐเผด็จการ
- ที่มา: รอยเตอร์