เรือรบจีนและไต้หวันเล่นเกม "แมวจับหนู" กลางทะเลเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนสิ้นสุดการซ้อมรบครั้งใหญ่ของกองทัพจีนที่กินเวลา 4 วัน ซึ่งมีขึ้นเพื่อตอบโต้ต่อการเยือนไต้หวันของ ส.ส.แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เรือรบจากจีนประมาณ 10 ลำ และของไต้หวันจำนวนเท่า ๆ กัน แล่นผ่านบริเวณช่องแคบไต้หวันในวันอาทิตย์ โดยในบางช่วงเรือรบจีนได้ล้ำเข้าไปในในเขตเส้นแบ่งพรมแดนทางทะเลกึ่งกลางช่องแคบดังกล่าว จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเหตุการณ์นี้
กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า เรือรบ เครื่องบินรบ และโดรนของกองทัพจีน จำนวนหลายลำ ได้ทำการซ้อมรบแบบจำลองเหตุการณ์การโจมตีไต้หวัน ซึ่งทางไต้หวันได้ส่งเครื่องบินและเรือรบไปตอบโต้ "ตามความเหมาะสม"
ต่อมา กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า มีเรือรบจีน 14 ลำ และเครื่องบิน 66 ลำ เข้าร่วมในการซ้อมรบบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งทางไต้หวันได้จับตาอย่างใกล้ชิดและพร้อมตอบโต้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น โดยได้สั่งการให้เตรียมพร้อมระบบป้องกันขีปนาวุธชายฝั่ง เครื่องบินรบ เอฟ-16 และระบบโจมตีขีปนาวุธไว้แล้ว
ก่อนหน้านี้จีนประกาศว่าการซ้อมรบจะมีต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์ แต่ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ สื่อของทางการจีนรายงานว่า การซ้อมรบ "ตามปกติ" จะยังคงมีอยู่ต่อไปบริเวณเส้นแบ่งพรมแดนกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ขณะที่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนว่าการซ้อมรบได้ยุติลงแล้วหรือไม่
ทางด้านแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า "ทั้งสองฝ่ายยังคงพยายามแสดงความอดกลั้น" และว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คล้ายกับการเล่น "แมวจับหนู" ระหว่างไต้หวันกับจีน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมไต้หวันได้เริ่มยกเลิกคำประกาศจำกัดเที่ยวบินโดยสารต่าง ๆ เหนือน่านฟ้าของไต้หวันแล้ว พร้อมระบุว่าคำเตือนเรื่องการซ้อมรบของกองทัพจีนมิได้มีผลบังคับใช้แล้ว ถึงกระนั้น ทางการไต้หวันยังคงสั่งให้เครื่องบินและเรือต่าง ๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตซ้อมรบทางภาคตะวันออกของไต้หวันจนถึงช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกการซ้อมรบของจีนว่า เป็นความพยายามเปลี่ยนแปลงสถานะของไต้หวัน และว่า "เป็นการยั่วยุ ไร้ความรับผิดชอบ และก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด" รวมทั้ง "ขัดกับเป้าหมายในระยะยาวว่าด้วยการสร้างสันติภาพและความมั่นคงบริเวณช่องแคบไต้หวันด้วย"
- ที่มา: วีโอเอ
