ทางการรัสเซียกล่าววันพุธว่า ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป Sarmat ซึ่งถือเป็นอาวุธใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเสริมศักยภาพทางนิวเคลียร์ของรัสเซียเเป็นครั้งแรก โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่า จะช่วยป้องปรามศัตรูของรัสเซียได้
ในภาพวิดีโอที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ ประธานาธิบดีปูตินรับทราบ ถึงการยิงทดสอบจากฐานที่เขต “พเลเซ็ตสก์” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และขีปนาวุธยิงไปถูกเป้าหมายบริเวณคาบสมุทร “คัมเชตกา” ทางตะวันออกไกลของประเทศ ตามรายงานของรอยเตอร์
รัสเซียใช้เวลาพัฒนาขีปนาวุธชนิดนี้มาเป็นเวลาหลายปี และการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับโลกตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความตึงเครียดขั้นรุนแรงจากสงครามในยูเครน
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า สถานที่ทดสอบขีปนาวุธมีความทันสมัยเชิงเทคนิคและเชิงยุทธวิธีที่สามารถเอาชนะระบบป้องกันขีปนาวุธรุ่นใหม่ทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้
เขากล่าวด้วยว่า พัฒนาการล่าสุดนี้จะเป็น “สิ่งที่น่านำไปคิดสำหรับผู้ที่พยายามข่มขู่คุกคามประเทศของเราท่ามกลางความร้อนแรงของการใช้โวหาร"
สำนักข่าว Tass ของรัสเซียอ้างคำพูดของ ดมิทรี โรโกซิน หัวหน้าโครงการอวกาศรัสเซีย "รอสคอสมอส" ที่กล่าวในวันพุธว่า หลังการทดสอบเสร็จสิ้น จะมีการผลิตเพื่อนำส่งได้จริงในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
ดักกลาส แบร์รี่ แห่งสถาบัน International Institute for Strategic Studies กล่าวว่า การทดสอบยิงครั้งนี้เป็นพัฒนาการที่สำคัญ หลังปัญหาเรื่องการเงินและการออกแบบเคยทำให้โครงการดังกล่าวล่าช้าไป
อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า ยังคงต้องใช้เวลาในการทดสอบเพิ่มขึ้นอีก ก่อนที่รัสเซียจะสามารถใช้ขีปนาวุธนี้แทนขีปนาวุธรุ่นเก่าสองชนิดคือ SS-18 และ SS-19 ซึ่งเขาระบุว่า ล้าสมัย
แบร์รี่ กล่าวว่า ขีปนาวุธ Sarmat สามารถประกอบกับหัวรบ หรืออุปกรณ์หลอกล่อ อย่างน้อย 10 หัว และยิงได้ไกลเหนือขั้วโลกเหนือและใต้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อระบบเรดาร์ของดาวเทียมและระบบติดตามอื่นๆ
- ที่มา: รอยเตอร์