ทางการเมียนมาเดินเรื่องตั้งข้อหาละเมิดกฎการป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ต่อ นางอองซานซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกกองทัพจับกุมและคุมขัง หลังการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยข้อหาใหม่นี้มีออกมาก่อนกำหนดการปล่อยตัวเพียงวันเดียว
อู ขิ่น มอง ซอ ทนายความของ นางอองซานซูจี บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงเนปิดอว์ หลังการเข้าพบกับผู้พิพากษาว่า ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมาถูกตั้งข้อหาละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นข้อหาที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ถูกตั้งข้อหามีอุปกรณ์วิทยุมือถือ วอล์คกี้ ทอล์คกี้ ในครอบครองอย่างผิดกฎหมายที่มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี
เดิมที นางอองซานซูจี มีกำหนดถูกปล่อยตัวในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่ผู้พิพากษาออกคำสั่งยืดระยะเวลาควบคุมตัวไปจนถึงวันพุธนี้แทน
นอกจาก นางอองซานซูจี แล้ว กองทัพพม่ายังได้สั่งคุมขัง ประธานาธิบดี อู วิน มินท์ ภายในบ้านพักไว้ด้วย
ทนายความบอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ภาคภาษาพม่า ว่า รัฐธรรมนูญปี ค.ศ. 2008 สั่งห้ามไม่ให้มีการดำเนินคดีอาญาใดๆ ต่อประธานาธิบดี ซึ่งหมายความว่า ข้อหาต่างๆ ที่รัฐบาลทหารสั่งฟ้องนั้น ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นโมฆะด้วย
อู ขิ่น มอง ซอ กล่าวด้วยว่า ข้อหาล่าสุดที่ นางอองซานซูจี เผชิญนั้น เป็นเรื่องของการเมืองล้วนๆ เพื่อให้คุมขังตัวเธอไว้ในทำเนียบที่พักได้ต่อไป
การตั้งข้อหาใหม่ต่อผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา เกิดขึ้นขณะที่กองทัพเดินหน้ายกระดับการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารอยู่ แต่การชุมนุมของประชาชนทั่วประเทศยังคงดำเนินต่อไปในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น แม้ว่าจะมีการสั่งปิดระบบอินเตอร์เน็ตติดต่อกัน 2 คืนแล้วก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประท้วงทำการปิดกั้นถนนหน้าธนาคารกลางของเมียนมาในนครย่างกุ้ง แม้ว่าทหารจะส่งรถหุ้มเกราะออกมาควบคุมสถานการณ์เพิ่มขึ้นตั้งแต่วันก่อนก็ตาม
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานด้วยว่า ผุ้ประท้วงยังทำการปิดกั้นรางรถไฟที่วิ่งระหว่างนครย่างกุ้งและเมืองเมาะลำเลิง ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ ขณะที่พระภิกษุหลายสิบรูปเข้าร่วมการเดินประท้วงบนถนนของนครย่างกุ้งในวันอังคารด้วย
การปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่การจับกุมตัว นางอองซานซูจี และสมาชิกสำคัญๆ ของรัฐบาลพลเรือนที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผู้ชุมนุมหลายหมื่นออกมาร่วมเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนของเมืองใหญ่หลายแห่งของเมียนมา โดยไม่สนใจมาตรการคำสั่งเคอร์ฟิวและคำสั่งห้ามการชุมนุมเกินกว่า 4 คนที่กองทัพประกาศใช้ โดยผู้ประท้วงบางคนถือป้ายที่มีคำขวัญสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยบ้าง และบางคนถือภาพของ นางอองซานซูจี บ้าง และหลายคนชูนิ้ว 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านทรราชย์ ดังเช่นในภาพยนตร์ Hunger Games ด้วย
นอกจากการชุมนุมประท้วงของประชาชนทั่วประเทศแล้ว พนักงานรัฐและข้าราชการจำนวนมากยังเข้าร่วมการหยุดงานประท้วงเพื่อแสดงการต่อต้านการที่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ซึ่งส่งผลให้การเดินรถไฟทั่วประเทศมีปัญหาไปแล้ว ขณะที่ กองทัพเมียนมาออกคำสั่งให้ข้าราชการกลับเข้าทำงาน พร้อมขู่จะดำเนินการต่างๆ เพื่อจัดการต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม แต่ล่าสุด มีพนักงานจากหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งรวมถึง หน่วยงานด้านการแพทย์ ค่อยๆ หยุดงานเพื่อประท้วงด้วยเช่นกัน