บุตรสาวของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตร์เต้ อาจจะเตรียมลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปีหน้า โดยจะมีที่ปรึกษาคนสนิทของนายดูเตร์เต้เป็นผู้ลงสมัครร่วมกันในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น ABS-CBN เมื่อวันเสาร์
ซาร่า ดูเตร์เต้-คาร์ปิโอ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา เมืองใหญ่อันดับสามของฟิลิปปินส์ เธอเคยกล่าวไว้ว่าเธอจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีหน้าหลังจากที่พ่อของเธอพ้นจากตำแหน่งแล้ว
แต่สื่อท้องถิ่นของฟิลิปปินส์ ABS-CBN รายงานโดยอ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีดูเตร์เต้ ซึ่งกล่าวขณะเดินทางไปกับที่ปรึกษาคนสนิท ส.ว.คริสโตเฟอร์ บอง โก เพื่อยื่นใบสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยระบุเป็นนัยว่าจะเป็นการลงสมัครร่วมกันระหว่าง ซาร่ากับโก ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า
อย่างไรก็ตาม โฆษกของบุตรสาวประธานาธิบดีดูเตร์เต้ยังคงไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้เมื่อทางผู้สื่อข่าวสอบถามไป ขณะที่ตัวประธานาธิบดีดูเตร์เต้เองก็ยังไม่ยืนยันว่าลูกสาวของตนจะลงสมัครด้วยจริงหรือไม่
SEE ALSO: สังเวียนใหม่! 'ปาเกียว' เตรียมลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
จนถึงขณะนี้ พรรคการเมืองของนายดูเตร์เต้ยังคงไม่ประกาศชื่อตัวแทนพรรคที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ แม้ว่าบุตรสาวของนายดูเตร์เต้อาจลงสมัครในนามของพรรคอื่นที่เธอสังกัดอยู่ก็ตาม
ในการจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อปีที่แล้ว ซาร่า ดูเตร์เต้-คาร์ปิโอ ได้รับคะแนนนิยมในระดับสูงสุด ในขณะที่ ส.ว.บอง โก ซึ่งคาดว่าจะลงสมัครคู่กันนั้น ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในตำแหน่งรองประธานาธิบดี
ปธน.ดูเตร์เต้ วัย 76 ปี ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า ตนจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเมื่อลงจากตำแหน่งในปี ค.ศ. 2022 ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับประชาชน และทำให้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดว่า เขาอาจปูทางให้ลูกสาวขึ้นเป็นประธานาธิบดีแทน
ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีเวลาลงทะเบียนจนถึงวันที่ 8 ตุลาคมนี้ และสามารถถอนตัวได้จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน
ทั้งนี้ ภายใต้รัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีจะอยู่ในตำแหน่งเพียงสมัยเดียวเป็นเวลา 6 ปี และจะไม่มีสิทธิ์ลงสมัครเป็นสมัยที่สอง
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า นายดูเตร์เต้อาจต้องการให้คนใกล้ชิดสืบทอดตำแหน่งต่อจากตน เพื่อปกป้องตนเองจากการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายสืบเนื่องจากข้อกล่าวหาว่าเขาสั่งการให้สังหารประชาชนหลายพันคนในการทำสงครามกับยาเสพติดตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. 2016