Your browser doesn’t support HTML5
Business News
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (Evergrande Group) พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน สืบเนื่องจากความหวาดกลัวเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนแห่งนี้ ขณะที่ยังไม่มีสัญญาณว่ารัฐบาลจีนจะยื่นมือเข้าช่วยพยุงสถานะของเอเวอร์แกรนด์เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อภาคธุรกิจอื่น ๆ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ฮุย กา หยวน ระบุในจดหมายถึงพนักงานของบริษัทในวันอังคาร แสดงความมั่นใจว่าเอเวอร์แกรนด์จะสามารถ "หลุดพ้นจากช่วงเวลาที่มืดมน" และเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ต่อไปได้ตามที่ได้ทำสัญญาไว้กับผู้ซื้อ นักลงทุน หุ้นส่วนและสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตาม นายฮุยมิได้อธิบายว่าทางบริษัทจะจัดการปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ได้อย่างไร ท่ามกลางหนี้ที่สูงกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์
ด้านนักวิเคราะห์หลายคนต่างไม่เชื่อว่า เอเวอร์แกรนด์จะกลายเป็นต้นตอของวิกฤติการณ์หนี้ที่อยู่อาศัยครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับธนาคารลีห์แมนบราเธอร์สของสหรัฐฯ เมื่อกว่าสิบปีก่อน และเชื่อกันว่า อาจมีการเจรจากันอยู่เบื้องหลังเรื่องการให้บริษัทตัวแทนของรัฐบาลจีนเข้าซื้อกิจการของเอเวอร์แกรนด์เพื่อจัดการภาระหนี้ที่ว่านี้
ถึงกระนั้น ดูเหมือนรัฐบาลกรุงปักกิ่งยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยต่อวิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนครั้งนี้
บททดสอบสำคัญของเอเวอร์แกรนด์กำลังจะมาถึงในสัปดาห์นี้ เมื่อครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้พันธบัตรมูลค่า 83.5 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งอีก 47.5 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า
แอนดรูว์ เลฟต์ ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยด้านการลงทุน Citron Research เชื่อว่าในที่สุดแล้วหุ้นทุนของเอเวอร์แกรนด์จะสูญไปหมด และรัฐบาลจีนจะเข้าไปแตกบริษัทขนาดใหญ่แห่งนี้ให้กลายเป็นกลายเป็นส่วนย่อย ๆ แต่ก็ไม่เชื่อว่าวิกฤติครั้งนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม
ขณะที่ไอริส ปัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร ING เชื่อว่า รัฐบาลจีนอาจขายหุ้นบางส่วนของเอเวอร์แกรนด์ให้แก่บริษัทตัวแทนเพื่อระดมทุน และขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไปก่อน
ด้าน S&P Global Ratings เชื่อว่า รัฐบาลปักกิ่งจะยังไม่ให้การช่วยเหลือโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์ หากยังไม่มีสัญญาณว่าปัญหาหนี้ครั้งนี้จะส่งผลต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายอื่นเป็นลูกโซ่ และสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจจีนจริง ๆ
(ที่มา: รอยเตอร์)