Your browser doesn’t support HTML5
ที่ฟาร์มขนาดกลางในเมืองอับเปอร์ มาร์ลโบโร รัฐเเมรี่เเลนด์ คุณลิซ ไวท์เฮิร์สท (Liz Whitehurst) สาวอเมริกันอายุ 32 ปี ที่เติบโตในชานเมืองชิคาโกเ เละเรียนจบปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์ เคยทำงานมาหลายตำเเหน่งเเล้วก่อนที่จะมาเป็นเกษตรกรในไร่เเห่งนี้
วันนี้เธอกำลังเเพ็คผักอลูกูล่าที่เพิ่งตัดใหม่ออกเป็นห่อละสองถึงสามกำมือ
เเม้ว่าค่าเเรงต่อชั่วโมงเเละสวัสดิการในตำเเหน่งงานที่เธอเคยทำในกรุงวอชิงตันจะดีกว่า เเต่เมื่อสองปีที่แล้ว ไวท์เฮิร์สทตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาเป็นเกษตรกรในพื้นที่ขนาดเล็กเพียง 3 เอเคอร์ หรือราว 7 ไร่เเห่งนี้
เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเกษตรกรอเมริกันรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูง เคยอาศัยในเมืองใหญ่มาก่อน เเต่ไม่เคยทำการเกษตรมาในชีวิต เเละพวกเขากำลังเเสวงกำไรจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นต่อพืชผลทางการเกษตรที่ปลูกในท้องถิ่นเเละเป็นการเกษตรเเบบยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ากลุ่มเกษตรกรหนุ่มสาวเหล่านี้อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างเเก่ระบบผลิตอาหารในสหรัฐฯ
เเคธลีน เมอร์ริเเกน ผู้อำนวยการสถาบันอาหารที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวว่า จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับการเกษตรกรรมในสหรัฐฯ เมื่อคนรุ่นใหม่ผันตัวไปทำการเกษตรกันมากขึ้น เธอกล่าวว่า เกษตรกรรุ่นใหม่เหล่านี้ควรได้รับการส่งเสริมเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
รายงานการสำรวจจำนวนเกษตรกรของสำนักงาน USDA พบว่ามีจำนวนเกษตรกรอเมริกันอายุ 25 ถึง 34 ปี เพิ่มจำนวนขึ้น 2.2 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปี ค.ศ. 2007 ถึง ปี 2012
ผลการสำรวจชิ้นหนึ่งโดยเเนวร่วมเกษตรกรหนุ่มสาวเเห่งชาติ (National Young Farmers Coalition) หน่วยงานส่งเสริมสิทธิ์ ชี้ว่า เกษตรกรหนุ่มสาวอเมริกันไม่ได้เติบโตในครอบครัวเกษตรกร เเละนิยมปลูกพืชอินทรีย์มากกว่าเกษตรกรรุ่นเก่า โดยจำกัดปริมาณสารเคมีเเละปุ่ยเคมีที่ใช้ มีการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่มีความหลากหลาย เเละมีส่วนร่วมอย่างเต็มตัวในระบบอาหารท้องถิ่น ผ่านโครงการการเกษตรชุมชนหรือ CSA เเละตลาดขายสินค้าเกษตรกร
เกษตรกรอายุน้อยรุ่นใหม่เหล่านี้ยังมักจะทำการเกษตรในพื้นที่ขนาดเล็กที่ไม่เกิน 50 เอเคอร์ เเต่พื้นที่เพาะปลูกจะขยายกว้างขึ้นเมื่อมีประสบการณ์มากปีขึ้น
ไวท์เฮิร์สท สืบต่อการดูเเลฟาร์ม Owl's Nest จากเกษตรกรเกษียณอายุเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฟาร์มของเธอตั้งอยู่ปลายถนนลูกรัง มีแปลงผักหลายประเภทเรียงรายบนเนินเขาชันที่มีบ้านหลังเล็กๆ สีขาวของเธอตั้งอยู่ที่ยอดเนิน และเช่นเดียวกับเกษตรกรคนก่อนหน้า ไวท์เฮิร์สทเช่าบ้านเเละพื้นที่เพาะปลูกจากเจ้าของที่เป็นสามีภรรยาอายุ 70 ปีกว่าซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน
ไวท์เฮิร์สทปลูกผักอินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง อาทิ พริกหยวก กะหล่ำปลี มะเขือเทศ เเละผักสลัดใบเขียว รวมทั้งผักเคลเเละอลูกูลา มีการปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อบำรุงดินให้สมบูรณ์ เเละมีการปลุกพืชคลุมหน้าดินในช่วงที่ไม่มีการเพาะปลูก
ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี เเละวันศุกร์ ไวท์เฮิร์สทกับเพื่อนเก่าเเก่อีกสองคนจากกรุงวอชิงตันจะตื่นเเต่เช้ามืดเพื่อตัดผักด้วยมือก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
เกษตรกรสาวทั้งสามคนอาศัยในบ้านที่ฟาร์ม เเละอยู่ได้ด้วยเงินที่ได้จากการขายผลผลิตผักที่ส่งขายเเก่ร้านอาหารตามปริมาณส่วนเเบ่งที่กำหนดโดยโครงการการเกษตรชุมชน เเละบางส่วนนำไปขายในตลาดเกษตรกรในกรุงวอชิงตัน
เกษตรกรสาวทั้งสามบอกว่า รายได้ไม่มากเเละต้องระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายเเละพวกเธอยอมรับว่าต้องเเลกความเป็นอยู่ที่หรูหราในเมืองใหญ่เพื่อมาเป็นเกษตรกร
มีความหวังกันว่า การเพิ่มจำนวนขึ้นของเกษตรกรอายุน้อยในสหรัฐฯ จะช่วยทดแทนเกษตรกรสูงวัยที่เริ่มเกษียณงาน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ระดับอายุเฉลี่ยของเกษตรกรอเมริกันอยู่ที่เกือบ 60 ปี เพิ่มความเสี่ยงต่อการลดลงของการเกษตรขนาดกลางที่เป็นกิจการในครอบครัวลง เพราะลูกๆ ไม่สนใจที่จะสืบทอดกิจการจากพ่อเเม่
สำนักงาน USDA รายงานว่า ระหว่างปี ค.ศ. 1992 - 2012 สหรัฐฯ สูญเสียฟาร์มการเกษตรเพื่อการค้าขนาดกลางเเละขนาดเล็กไปมากกว่า 250,000 เเห่งทั่วประเทศ เเละในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีฟาร์มขนาดใหญ่มากเกิดขึ้นกว่า 35,000 เเห่ง เเละฟาร์มขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่เเล้วจำนวนหนึ่งได้ขยายพื้นที่การเกษตร
หากกิจการฟาร์มของเกษตรกรรุ่นใหม่อายุน้อยเหล่านี้เติบโต คุณชูชาน่า อินวูด (Shoshanah Inwood) นักสังคมวิทยาชนบทที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตท กล่าวว่า เกษตรกรรุ่นใหม่นี้จะช่วยส่งเสริมฟาร์มขนาดกลางเหล่านี้ เเละช่วยป้องกันไม่ให้ที่ดินทางการเกษตรตกไปอยู่ในมือของฟาร์มระดับอุตสาหกรรมหรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)