รัฐสภาศรีลังกามีมติเลือก รักษาการประธานาธิบดี รานิล วิกรมสิงเห เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่เต็มตัว ท่ามกลางความผิดหวังของผู้ประท้วงที่เคยเรียกร้องให้ผู้บริหารรัฐบาลระดับสูงรายนี้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ด้วยเหตุความไม่พอใจที่วิกฤตเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีขึ้น
สมาชิกรัฐสภาศรีลังกา 134 คน จากทั้งหมด 225 คนลงคะแนนในวันพุธเพื่อเลือก วิกรมสิงเห ให้เป็นผู้มีชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เหนือ อดีตรัฐมนตรี ดัลลาส อาลาฮัปเปรุมา ที่ได้รับคะแนน 82 เสียง
ในการกล่าวสุนทรพจน์เพื่อรับตำแหน่งใหม่ วิกรมสิงเห ระบุว่า “เมื่อการเลือกตั้งสิ้นสุดลงแล้ว เราก็ต้องยุติความแตกแยกนี้ด้วย” พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมทำงานกับตนเพื่อนำพาศรีลังกาให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีนี้ให้ได้
ก่อนหน้านี้ รานิล วิกรมสิงเห วัย 73 ปี ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนพฤษภาคม ก่อนจะต้องก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการ หลังอดีตประธานาธิบดีโคฐาภยะ ราชปักษะ หนีออกนอกประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและลาออกจากตำแหน่งด้วยการส่งอีเมล์ไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรในเวลาต่อมา
หลังรัฐสภาสรุปผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ซาจิต ปรีมาดาซา หัวหน้าฝ่ายค้าน ออกมากล่าวว่า “นี่คือรัฐสภาตกยุค ที่สืบทอดอำนาจต่อจาก(อดีต)ประธานาธิบดีที่ถูกขับออกจากตำแหน่งไป”
สมาชิกรัฐสภาศรีลังกาบางรายกล่าวว่า ตนตัดสินใจลงคะแนนให้ วิกรมสิงเห เพราะประสบการณ์ของเขาที่เชื่อว่า จะมาช่วยแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ศรีลังกาตกอยู่ในสภาวะล้มละลายได้
อย่างไรก็ตาม วิกรมสิงเห ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่มากมาย ทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน และภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง รวมทั้งการขาดแคลนอาหารด้วย ขณะที่ จะต้องพยายามฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเมืองที่ซวนเซหนักเพราะการประท้วงของประชาชนซึ่งดำเนินติดต่อกันมาหลายเดือน เพื่อที่จะได้สามารถร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากนอกประเทศได้
นักวิเคราะห์การเมืองหลายรายให้ความเห็นว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้น่าผิดหวัง หลังผู้คนนับหมื่นออกมาประท้วงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการเมืองของประเทศ ซึ่งถูกมองว่า เป็นต้นตอของสภาพเศรษฐกิจอันเลวร้ายในเวลานี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงประกาศที่จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อไป
ดามิธ เคธากา หนึ่งในผู้ชุมนุมประท้วงระบุว่า “เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่า การเลือก วิกรมสิงเห (ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี) เป็นการละเมิดซึ่งจิตจำนงของประชาชน ... เราได้ระบุชัดเจนแล้วว่า เราไม่ได้ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ให้มีการเปลี่ยนระบบ ซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงเลย” พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การเคลื่อนไหวของประชาชนจะยิ่งได้พลวัตเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ วิกรมสิงเห จะอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีได้จนถึงเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2024 ซึ่งเป็นวาระของอดีตปธน.โคฐาภยะนั่นเอง
- ที่มา: วีโอเอ