ตามสถิติพบว่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ เดินทางมาจากประเทศจีนมากที่สุด แต่ในปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวปรับลดลงเล็กน้อย โดยเชื่อว่ามีสาเหตุที่หลากหลาย เช่นความกังวลของผู้ปกครองในเรื่องความปลอดภัยของบุตรหลาน ที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกสถานศึกษา นโยบายคัดกรองนักเรียนต่างชาติที่อาจเข้ามาแทรกแซงในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีของสหรัฐฯ รวมถึงการถูกเฝ้าติดตามการแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ละเอียดอ่อนจากหน่วยงานภาครัฐของจีน
สวอลโลว์ แยน ผู้ก่อตั้ง US Education Without Borders (USEWB) ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติในการสมัครเรียนต่อในสหรัฐฯ ชี้ว่าส่วนหนึ่ง ที่นักเรียนต่างชาติชาวจีนราว 3 แสนคนที่มาศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกามีจำนวนลดลง เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย
แยน กล่าวว่า “เหล่าผู้ปกครองต่างกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับเหตุการณ์เชิงลบที่เกิดในสหรัฐฯ อย่างแรกคือการยิงกันในสถานศึกษา ประการที่สองคือความปลอดภัยบนท้องถนนและการโจรกรรมมากมาย” เขาชี้ว่าเหตุจำนวนมากมาจากอาชญากรรมความรุนแรงในการใช้อาวุธปืน
อีกความท้าทาย คือนโยบายการคัดกรองอันเป็นผลสืบเนื่องจากรัฐบาลยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามนักเรียนชาวจีน ที่มาจากมหาวิทยาลัยที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพของจีน เข้าศึกษาต่อในสหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลว่า จีนจะขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและความรู้ด้านเทคโนโลยี
แยน เผยถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ปัญหาวีซ่า คือปัญหาสำคัญสำหรับนักเรียนที่จะมาศึกษาต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่มีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง (พวกเขา) มาที่นี่ เพื่อเรียนในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าสาขาเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความละเอียดอ่อน ควรได้รับการปกป้องจากประเทศอื่นที่อาจเข้ามาแทรกแซง”
ชอว์น จ้าน นักเรียนต่างชาติชาวจีนที่ไม่ประสบปัญหาการขอวีซ่าในการศึกษาต่อ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า “ถ้าคุณเรียนวิชาฟิสิกส์ควอนตัม หรือวิชาเอกที่มีความละเอียดอ่อนอย่างมาก นั่นอาจเป็นปัญหาใหญ่ แต่สำหรับผมเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนเศรษฐศาสตร์ทั่วไป”
เพอร์รี่ ลิงค์ อาจารย์ด้านวรรณคดีและภาษาจีน มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตริเวอร์ไซด์ มองว่า นักเรียนบางคนมีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาพูดหรือแสดงความเห็น ขณะที่อยู่ในสหรัฐฯ เนื่องจากสมาคมนักเรียนบางแห่ง มีความเกี่ยวข้องกับสถานกงสุลจีนในพื้นที่
“นักศึกษา (ชาวจีน) รู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกติดตาม และเฝ้าดูผ่านกลไกดังกล่าวในมหาวิทยาลัย และเมื่อมีหัวข้อที่ละเอียดอ่อน นักเรียนชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ก็จะเลือกไม่แสดงความเห็น” ลิงค์ เสริมว่า การเซ็นเซอร์ตัวเอง “ไม่ใช่เพราะพวกเขาคิดว่านักเรียนชาวจีนคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนเป็นสายลับ” แต่กังวลว่าความเห็นที่แสดงออกมา อาจถูกนักเรียนชาวจีนคนอื่น นำไปแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนส่งผลย้อนกลับมาทำร้ายตัวพวกเขาได้
อย่างไรก็ดี ในภาพรวม เมื่อเทียบจำนวนนักศึกษาจากประเทศอื่น นักศึกษาชาวจีนที่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังถือว่ามีจำนวนมากที่สุด
ในความเห็นของ แยน ผู้ก่อตั้ง USEWB ชี้ว่า “หากเราต้องการ ที่จะได้รับโอกาสทางการศึกษาและเส้นทางในสายอาชีพที่ดีที่สุด สหรัฐอเมริกาคืออันดับหนึ่ง (ในเรื่องนี้)”
- ที่มา: วีโอเอ