องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยี Google เพื่อรับรองว่า เมื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส ประชาชนจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจาก WHO ก่อนเป็นที่แรก
ผอ.ใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เทดรอส อัทนอม เกเบรเยซุส กล่าวในพิธีเปิดการประชุมของ WHO ในวันจันทร์ว่า สื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Twitter, Facebook, Tencent และ TikTok ต่างใช้มาตรการหลายอย่างในการจำกัดการกระจายข้อมูลผิด ๆ และข่าวลือต่าง ๆ เกี่ยวกับการระบาดของโคโรนาไวรัส ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วใน 23 ประเทศ
เราต้องการข้อมูลที่เป็นความจริง ไม่ใช่มาจากความหวาดกลัว ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ข่าวลือผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก
และว่า ขณะนี้ WHO กำลังทำงานกับ Google เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของ WHO จะปรากฎขึ้นมาในอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหาของ Google
ก่อนหน้านี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ของ WHO ต่างออกมากล่าวชมเชยการทำงานของรัฐบาลจีนในการตอบสนองและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโคโรนาไวรัส ตลอดจนการควบคุมข่าวลือต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดกระแสความตื่นกลัวมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติต่อชาวจีนและชาวเอเชียชาติอื่น ๆ
ผอ.ใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า "แม้แต่ในประเทศจีน เชื้อไวรัสนี้ก็ยังมิได้ระบาดไปในทุกพื้นที่ และไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความเสี่ยงในการรับเชื้อไวรัสนี้ในระดับเท่า ๆ กัน" และว่า "เราต้องการข้อมูลที่เป็นความจริง ไม่ใช่มาจากความหวาดกลัว ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ข่าวลือ และเราต้องการความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่การป้ายมลทิน"
นับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อเดือนธันวาคม มีข่าวลือต่าง ๆ ปรากฎมากมายในโลกออนไลน์ รวมถึงข้อมูลข่าวลือที่ว่าไวรัสชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลอง และมีการผลิตวัคซีนมานานแล้ว ตลอดจนการพูดถึงวิธีการรักษาแปลก ๆ ที่ไม่สามารถใช้ได้จริง
เมื่อวันอาทิตย์ องค์การอนามัยโลกระบุว่าขณะนี้กำลังเกิดการระบาดครั้งใหญ่ของข้อมูลเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส หรือ infodemic ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ผิดและถูก ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่ประชาชนทั่วไปจะหาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้เมื่อพวกเขาต้องการ
และนั่นยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ของ WHO ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อมูลเท็จที่อาจเป็นอันตรายด้านสาธารณสุขในวงกว้างได้ เช่น วิธีป้องกันหรือวิธีรักษาผิด ๆ
ขณะเดียวกัน นายเกเบรเยซุสยังขอให้ประเทศต่าง ๆ อย่าปิดพรมแดนเพื่อไม่ให้ชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีนเข้าประเทศของตน เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลหลายประเทศ รวมทั้ง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อิสราเอล มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่างประกาศควบคุมการเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา