ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ยอดผู้เสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสทะลุ 300! พบผู้เสียชีวิตรายแรกนอกจีน


Office employees wearing facemasks walk along a street in Manila on January 30, 2020.
Office employees wearing facemasks walk along a street in Manila on January 30, 2020.

รายงานสถานการณ์การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสล่าสุด พบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 14,000 คน มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 300 คน และมีผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนแล้ว 1 ราย โดยเป็นชายที่อยู่ในฟิลิปปินส์

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลหลายประเทศ รวมทั้ง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อิสราเอล มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่างประกาศควบคุมการเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เมื่อวันเสาร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ค เอสเปอร์ อนุมัติคำขอของกระทรวงสาธารณสุขและทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้ช่วยจัดสรรที่พักชั่วคราวให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ จำนวน 1,000 คน ซึ่งจำเป็นต้องถูกกักตัวไว้หลังจากเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเป็นเวลา 14 วัน จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ แล้ว 9 ราย โดยรายล่าสุดเป็นนักศึกษาชายที่นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ส ซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ถือเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกที่พบในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ

ในวันเสาร์เช่นกัน ทางการจีนได้ส่งเครื่องบินไปยังไทยและมาเลเซียเพื่อรับพลเมืองชาวจีนจากมณฑลหูเป่ย 199 คนที่ตกค้างอยู่ที่สนามบินในสองประเทศนั้นกลับบ้าน หลังจากที่เที่ยวบินขากลับของพวกเขาถูกยกเลิก

และในวันอาทิตย์ ทางการจีนประกาศปิดเมืองเหวินโจว ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองอู่ฮั่นราว 800 กม. เพื่อควบคุมเชื้อโคโรนาไวรัส

ด้านสื่อในสหรัฐฯ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า การตอบสนองของรัฐบาลจีนในช่วงเริ่มต้นของการระบาด อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายอย่างยิ่งในขณะนี้

ชาวอเมริกันบางคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่นกล่าวกับวีโอเอว่า มีรายงานแพร่สะพัดทางอินเทอร์เน็ตว่า รัฐบาลจีนได้พยายามปกปิดการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสตั้งแต่ในช่วงแรกที่เริ่มมีการระบาดเมื่อเดือนธันวาคม ทั้งการสั่งห้ามแพทย์ชาวจีนพูดเรื่องเชื้อไวรัสชนิดนี้ และการส่งตำรวจไปจับกุมคนที่เผยแพร่ข้อมูลในโลกออนไลน์

เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว องค์การอนามัยโลกประกาศว่า การระบาดของเชื้อไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นนี้เป็น "ความฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ" และถือเป็นเหตุการณ์ที่ต้องการความร่วมมือทั่วโลกเพื่อตอบสนอง หลังพบผู้ติดเชื้อแล้วในอย่างน้อย 27 ประเทศทั่วโลกในขณะนี้


XS
SM
MD
LG