ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประมาณ 10% ของเด็กอายุ 5-11 ปีในสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนโควิดโดสแรกจากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) แล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการอนุญาตให้ใช้กับเด็กวัยดังกล่าวมาตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อน
เจฟฟ์ ไซเอนท์ส ผู้ประสานงานด้านการรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันพุธว่า มีเด็กวัย 5-11 ปีในสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อย 2.6 ล้านคน โดยอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์แรกเป็นสองเท่าในสัปดาห์ที่สอง และเร็วกว่าอัตราการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ใหญ่ในช่วงสองสัปดาห์แรกเมื่อ 11 เดือนก่อน มากกว่าสามเท่า
ไซเอนท์ส กล่าวว่า ปัจจุบันมีศูนย์ฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปี ราว 30,000 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มจากจำนวน 20,000 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และคาดว่าอัตราการฉีดวัคซีนให้เด็กวัยนี้จะยิ่งรวดเร็วขึ้นในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า
โดยเด็กที่ได้รับวัคซีนโดสแรกภายในสัปดาห์นี้ จะได้รับโดสที่สองในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะทันเวลาก่อนเทศกาลคริสต์มาสที่จะมาถึง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากแต่ละรัฐบ่งชี้ว่า อัตราการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก ๆ ในรัฐต่าง ๆ นั้นแตกต่างกันไป กล่าวคือ ในบางรัฐ เช่น โคโลราโด ยูทาห์ และอิลลินอยส์ อัตราการฉีดวัคซีนในเด็ก 5-11 ปีจะอยู่ที่ระดับประมาณ 11% - 12% ขณะที่ตัวเลขดังกล่าวในรัฐเทนเนสซี ไอดาโฮ และไวโอมิง อยู่ที่ระดับ 4% - 5% เท่านั้น ซึ่งทั้งสามรัฐหลังนี้มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำในผู้ใหญ่เช่นกัน
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน ต่าง พยายามรณรงค์ให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปฉีดวัคซีนโควิด โดยเตือนถึงข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับวัคซีน พร้อมเน้นย้าถึงความปลอดภัยของวัคซีน และประโยชน์ต่อตัวเด็กเองและสมาชิกในครอบครัวจากการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุของอาการโควิด-19