กองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอังคารว่า หลังจากผ่านกำหนดเส้นตายวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ทหารเรือคนใดที่ไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 จะถูกปลดประจำการ และอาจสูญเสียสิทธิประโยชน์บางอย่างสำหรับทหารผ่านศึกด้วย
ภายใต้นโยบายของกองทัพเรือสหรัฐฯ ทหารเรือสามารถขอยกเว้นการฉีดวัคซีนภายใต้เหตุผลด้านการแพทย์และความเชื่อทางศาสนาได้ แต่หากคำร้องขอความยกเว้นนั้นถูกปฏิเสธโดยผู้บังคับบัญชา ทหารเรือผู้นั้นจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนภายในเวลาห้าวัน
แถลงการณ์ของฝ่ายกิจการบุคคลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อผ่านกำหนดเส้นตายไปแล้ว ผู้บังคับบัญชาจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบและจะสั่งปลดประจำการทหารที่ไม่ฉีดวัคซีนทันที โดยทหารเหล่านั้นอาจสูญเสียสวัสดิการด้านการศึกษา และเงินโบนัสด้วย
จนถึงขณะนี้ มากกว่า 99% ของทหารเรือที่ประจำการอยู่ตามฐานทัพเรือต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส และมีราว 95% ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ทหารเรือกองหนุนจะมีเวลาจนถึงวันที่ 28 ธันวาคมนี้สำหรับการเข้ารับวัคซีน
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ส่งบันทึกที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่เช่นนั้นอาจถูกลงโทษ โดยให้แต่ละกองทัพกำหนดเส้นตายวันบังคับใช้กฎเกณฑ์นี้เอง
ทั้งนี้ โฆษกเพนตากอน จอห์น เคอร์บี กล่าวในวันพุธว่า รมต.ออสติน สนับสนุนนโยบายล่าสุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ อย่างเต็มที่
สำหรับ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ผ่านกำหนดเส้นตายมาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งยังคงมีทหารในสังกัดกองทัพอากาศและกองทัพอวกาศราว 10,000 คนที่ยังคงไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยครึ่งหนึ่งกำลังรอการอนุมัติให้ได้รับการยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนา และมีทหารอยู่ราว 800 คนที่ยืนกรานด้วยตัวเองว่าจะไม่ฉีดวัคซีน ตามข้อมูลของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
ข้อมูลจากกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า ณ วันอังคาร มีทหารสังกัดกองทัพอากาศและกองทัพอวกาศราว 97% ที่ฉีดวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม เทียบกับตัวเลข 95% ของกองทัพบก และ 94% ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ