ในปัจจุบัน การศึกษาระดับอุดมศึกษาเกือบทุกหนทุกแห่งในสหรัฐฯ ได้รับความสนใจจากเยาวชนชาวอเมริกันน้อยลงเรื่อย ๆ โดยพิสูจน์ได้จากจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ หลักสูตรทางด้านวิชาชีพกลับเป็นส่วนที่มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นแทน
หลักสูตรวิชาชีพนั้นเสนอการสอนทักษะสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น ช่างไฟฟ้าหรือช่างซ่อมรถยนต์ ซึ่งนักเรียนหลาย ๆ คน เชื่อว่าจะช่วยปูเส้นทางสายอาชีพการงานของพวกเขาชัดเจนกว่าการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
องค์กร National Student Clearing House เปิดเผยว่า ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2021 ถึง 2022 หลักสูตรวิชาชีพบางหลักสูตรเติบโตขึ้นมากถึง 19.3% ในขณะที่ จำนวนนักศึกษาโดยรวมที่วิทยาลัยของรัฐซึ่งนำเสนอหลักสูตรสองปีนั้นลดลง 7.8% และที่มหาวิทยาลัยรัฐที่มีหลักสูตรสี่ปีลดลงไป 3.4% เช่นกัน
ยกตัวอย่างที่รัฐเทนเนสซี ซึ่งนักศึกษาไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนมาตั้งแต่ปี 2015 แต่จำนวนนักศึกษาโดยรวมที่เข้าเรียนในวิทยาลัยชุมชนของรัฐกลับลดลงในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งตรงกันข้ามกับกรณีของ Tennessee College of Applied Technology (TCAT) ที่มีการขยายหลักสูตรวิชาชีพเพิ่มเติมมาตลอด
TCAT เป็นเครือข่ายของ 24 วิทยาลัยที่มีการฝึกอบรมสำหรับ 70 สาขาวิชาชีพที่แตกต่างกันไป โดยที่ TCAT ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแนชวิลล์ นั้นได้รับความนิยมอย่างมากจนผู้สมัครเรียนในหลายหลักสูตรต้องลงชื่อรอเข้าเรียนกันแล้ว
เนธาน แกเร็ตต์ (Nathan Garrett) อธิการบดีของวิทยาลัยแห่งนี้กล่าวเสริมว่า ทางสถาบันได้เพิ่มชั้นเรียนภาคค่ำแล้วเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ TCAT ยังมุ่งเน้นในเรื่องการฝึกอบรมนักศึกษาในสาขาอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย โดยแกเร็ตต์กล่าวว่า ภาวะระบาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาทำให้งานบางประเภทเป็นที่ต้องการมากขึ้น อย่างเช่น ‘essential workers’ หรือผู้ที่ทำงานในสายงานที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน ที่ความต้องการไม่เคยลดน้อยลงเลยและยังคงมีการจ้างงานอยู่เสมอ
เชพเวน โจนส์ (Cheven Jones) อายุ 26 ปี ซึ่งกำลังจะเข้าศึกษาหลักสูตรวิชาชีพสาขายานยนต์ที่ TCAT ในเมืองแนชวิลล์ เล่าว่า ตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายนั้น เขาไม่ทราบว่า ตัวเองต้องการทำอาชีพอะไรในอนาคต และว่า “ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คือ การเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย การที่ต้องใช้เวลาและความพยายามทั้งหมดในการเรียน แต่แล้วก็ไม่ได้ใช้ใบปริญญาที่ร่ำเรียนมา”
ส่วนโรเบิร์ต นิฟยาโย (Robert Nivyayo) บอกว่า เขาไม่ชอบโรงเรียนมัธยม แต่ทราบมานานแล้วว่า ต้องการทำอาชีพอะไร โดยเขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการดูวิดีโอเกี่ยวกับการซ่อมรถ ก่อนที่เขาจะโตพอที่จะขับรถได้เสียอีก และว่า การฝึกซ่อมรถยนต์เป็นเรื่องสมเหตุสมผลสำหรับเขา เพราะเขาได้ทำงานและได้ทำในสิ่งที่ชอบไปพร้อมกัน
อาจารย์ของนิวาโยกล่าวว่า ตอนนี้นิฟยาโย อายุ 19 ปี เขากำลังตั้งตารอวันที่จะมีรายได้จากการทำอาชีพในร้านซ่อมรถยนต์ โดยคาดว่า จะมีรายได้ราวปีละ 40,000 ถึง 60,000 ดอลลาร์
ลอรา มังค์ส (Laura Monks) อธิการบดีของ TCAT วิทยาเขตเมืองเชลบีวิลล์ กล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลที่นักเรียนชอบ TCAT ก็คือ หลักสูตร “co-op” ของโรงเรียน ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ใกล้จะจบแล้วได้มีโอกาสหาประสบการณ์จากการทำงานจริงก่อนที่จะเรียนจบ
ขณะเดียวกัน เบรย์เดน จอห์นสัน (Brayden Johnson) วัย 20 ปี ซึ่งกำลังศึกษาด้านการดูแลรักษาเครื่องยนต์ ได้ทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงไฟฟ้าในโรงงานในท้องถิ่นที่ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับยาสีฟัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "co-op" โดยจอห์นสันมีรายได้ชั่วโมงละ 26 ดอลลาร์ และหวังว่า จะได้ทำงานต่อไปหลังจากจบที่ TCAT ในฤดูใบไม้ผลินี้
อธิการบดีแกเร็ตต์ จาก TCAT แนชวิลล์ กล่าวว่า การได้รับประสบการณ์การทำงานจริงในหลักสูตร “co-op” ของ TCAT เป็นสิ่งที่สำคัญ และเปิดเผยด้วยว่า นายจ้างจะต้องรายงานกลับไปยังอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้ทราบว่า นักเรียนนั้นทำได้ดีในจุดไหนและมีปัญหาตรงไหน และอาจารย์ก็จะได้สามารถแก้ไขจุดอ่อนเหล่านั้นในชั้นเรียนต่อไป
สำหรับเชฟเวน โจนส์ นั้น เขาวางแผนที่จะซ่อมรถยนต์ของเขาให้เสร็จก่อนที่จะเรียนจบหลักสูตรวิชาชีพ โดยที่จะสนุกไปกับชีวิตด้วย พร้อมยืนยันว่า ขณะที่ ตัวเขาจริงจังกับการเรียนมาก การได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ ที่คุ้นเคยกันทั้งวันก็ “เป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ” เช่นกัน
- ที่มา: เอพี