สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาในเดือนพฤษภาคม ลดลงต่ำกว่า 1 ล้านเปอร์เซนต์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018
รัฐสภาเวเนซุเอลา ระบุว่า ราคาสินค้าผู้บริโภคในรอบ 12 เดือนสิ้่นสุดเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 815,194% ลดลงจากระดับ 1,300,000% เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการจำกัดการพิมพ์ธนบัตรโบลิวาร์สของธนาคารกลางเวเนซุเอลา และการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพิ่มอัตราเงินสดสำรองมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยเงินกู้ได้น้อยลง ก็หมายความว่าเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาก็ต้องหดตัวลงตามไปด้วย โดยตัวเลขชี้ว่า เศรษฐกิจเวเนซุเอลาที่เข้าสู่ภาวะถดถอยมาตั้งแต่ 5 ปีก่อน หดตัวลงอีก 22.5% ในช่วงไตรมาสที่สามของปีที่ผ่านมา
รัฐบาลเวเนซุเอลากล่าวหาว่า มาตรการลงโทษของสหรัฐฯ คือสาเหตุสำคัญของความตกต่ำทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเวเนซุเอลาไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้เหมือนก่อน และยังไม่สามารถกู้ยืมเงินระหว่างประเทศได้
แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า การบริหารการเงินที่ผิดพลาด การแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน และการที่รัฐบาลเวเนซุเอลากว้านซื้อกิจการของบริษัทเอกชน ล้วนเป็นสาเหตุของการล่มสลายทางเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาในครั้งนี้