Your browser doesn’t support HTML5
รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาเตือนวัยรุ่นและสตรีมีครรภ์ห้ามใช้กัญชา โดยระบุว่าเป็นสารอันตราย ขณะที่ทางการสหรัฐฯ เปิดการสืบสวนกรณีที่บริษัทบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อดังของสหรัฐฯ Juul ทำการตลาดที่หลอกลวง เน้นกลุ่มลูกค้าเป็นเด็กและเยาวชน
หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่าทางบริษัท Juul ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่บริษัทหวังทำการตลาดเพื่อขายเด็กวัยรุ่น และยืนยันว่ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทยังคงเป็นผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 25-34 ปี หลังจากก่อนหน้านี้บริษัท Juul ได้ยกเลิกการใช้เหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์บนสื่อสังคมออนไลน์เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าของ Juul ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่น จากการผลิตบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นผลไม้และขนมหวานต่างๆ
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ ในมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ออกมาเตือนผู้คนให้หยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากพบหลักฐานที่ชี้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุของโรคปอด โดยสอบถามผู้ป่วย 27 คนในพื้นที่ซึ่งป่วยด้วยโรคปอดบวมจากสารเคมี และพบว่า 89% ของผู้ป่วยสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ขณะที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ หรือ CDC และองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันศุกร์ว่า พบผู้ป่วยโรคปอดขั้นรุนแรง 215 ราย ใน 25 รัฐทั่วอเมริกา ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ระบุความเชื่อมโยงระหว่างโรคปอดกับบุหรี่ไฟฟ้าที่ชัดเจนที่สุดในขณะนี้ และยังพบว่ามีผู้ป่วยโรคปอดขั้นรุนแรงหลายรายที่ใช้สาร THC หรือ CBD ซึ่งพบในกัญชาร่วมด้วย
ในกรณีของกัญชา ทางอธิบดีกรมอนามัย เจอโรม อดัมส์ ออกมาเตือนว่า ความเข้มข้นของสาร THC ที่พบในกัญชาปัจจุบัน เข้มข้นกว่ากัญชาในช่วงทศวรรษที่ 1990-2000 ถึง 3 เท่าตัว
ปัจจุบันกัญชายังเป็นสิ่งต้องห้ามในระดับรัฐบาลกลาง แต่มีบางรัฐที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการและเพื่อการแพทย์ และสร้างความเข้าใจและความเชื่อว่ากัญชานั้นไม่มีอันตราย
อธิบดีกรมอนามัยสหรัฐฯ เพิ่มเติมว่า การใช้กัญชาในวัยรุ่น จะส่งผลต่อการพัฒนาทางสมองในด้านสมาธิ การจดจำ และการตัดสินใจ ขณะที่ในสตรีมีครรภ์ กัญชาจะส่งผลต่อทารกให้มีความเสี่ยงที่สมองจะพัฒนาไปในระดับต่ำ ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐาน และนำไปสู่ปัญหาด้านพฤติกรรมของเด็กได้