ไฟป่าที่กำลังลุกไหม้หลายจุดในรัฐต่าง ๆ ทางภาคตะวันตกของสหรัฐฯ ได้แก่ รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐโอเรกอน และรัฐวอชิงตัน ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 36 คน และทำลายบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ หลายพันหลัง กินอาณาเขตมากกว่า 12,500 ตร.กม.
เมืองใหญ่หลายเมืองทางภาคตะวันตก เช่น นครซานฟรานซิสโก นครซีแอตเติล และเมืองพอร์ตแลนด์ ต่างปกคลุมด้วยควันจากไฟป่า ส่งผลให้คุณภาพอากาศในเมืองเหล่านั้นอยู่ในระดับเลวร้ายที่สุดในโลก สร้างอันตรายต่อสุขภาพประชาชนหลายล้านคน
ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายแสนคนในสามรัฐดังกล่าว ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ตามสถานที่หลบภัยต่าง ๆ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยี่ยมรัฐแคลิฟอร์เนียในวันจันทร์ เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดจากผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซัม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาวิจารณ์การทำงานของผู้นำสหรัฐฯ อยู่เสมอ
ทำเนียบขาวมีแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะพบปะกับเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นและส่วนกลางที่เมืองซาคราเมนโต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหารือเรื่องแนวทางจัดการไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียด้วย
โดยโฆษกทำเนียบขาว จัดด์ เดียร์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางกว่า 26,000 คน และเฮลิคอปเตอร์ 230 ลำ ไปช่วยในการดับไฟป่า และได้หารือทางโทรศัพท์กับผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียมาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม เมื่อสองปีก่อน ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางเยือนรัฐแคิฟอร์เนียหลังเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ และกล่าวโทษการบริหารจัดการป่าไม้และกฎหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐแคลิฟอร์เนียว่าขาดประสิทธิภาพ ทำให้ไฟป่าลุกลามเกินควบคุม
ขณะเดียวกัน คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต นายโจ ไบเดน มีกำหนดกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าทางภาคตะวันตกในวันจันทร์ โดยคาดว่าจะระบุถึงการขาดความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางในการต่อสู้ไฟป่าในสามรัฐดังกล่าว
ที่ผ่านมา นายไบเดนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่เชื่อว่าทำให้ไฟป่ารุนแรงขึ้นทุกปี ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามบอกปัดว่าปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการบริหารจัดการที่ผิดพลาดมากกว่า