เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 14,000 นายยังคงพยายามควบคุมไฟป่า 25 จุดในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ได้ลามไปยังพื้นที่กว่า 890,000 เฮกตาร์ หรือราว 8,900 ตารางกิโลเมตรแล้ว
ทางการเตือนว่ากระแสลมแรงในวันพุธอาจทำให้เพลิงไหม้ลามขึ้นได้ โดยเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นในขณะที่พื้นที่ทางตะวันตกของสหรัฐฯ รวมถึงรัฐแคลิฟอร์เนียมีอุณภหูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์
มีเพลิงไหม้สามจุดที่เป็นเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยสองในสามจุดยังคงเผาไหม้พื้นที่ทางตอนเหนือของอ่าวซานฟรานซิสโก แม้ว่าเพลิงไหม้ส่วนใหญ่จะถูกควบคุมได้หลังดำเนินติดต่อกันกันมาสามสัปดาห์แล้วก็ตาม
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยได้ช่วยชีวิตประชาชนหลายร้อยคนที่ติดในป่าสงวนแห่งชาติ เซียร์รา ทางตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเพลิงไหม้ทำลายอาคาร 365 หลังรวมถึงบ้านเรือน 45 เรือน
กรมป่าไม้ของสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 14 นาย ต้องอพยพไปที่พักฉุกเฉินหลังจากเพลิงไหม้ทำลายสถานีดับเพลิงในป่าสงวนแห่งชาติ ลอส พาเดรส ทางชายฝั่งตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย
นักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในวันพุธ ลมร้อนและแห้งอาจพัดด้วยความเร็วกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในบริเวณตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เพลิงไหม้ได้ลุกลามไปยังเขตปกครองในนครลอสแอนเจลิส เมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน และเมืองซานดิเอโก
เหตุเพลิงไหม้ทำให้ประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนียหลายพันคนต้องอพยพจากบ้านเรือน ขณะที่กรมป่าไม้สหรัฐฯ สั่งปิดป่าสงวนแห่งชาติทั้งแปดแห่งทางตอนใต้ของรัฐ และจุดตั้งแคมป์ทั้งหมดในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะเดียวกัน ไฟป่ายังลุกลามในรัฐวอชิงตันและรัฐโอเรกอน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสหรัฐฯ ด้วย โดยพายุเพลิงได้ทำลายบ้านเรือนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสถานีดับเพลิง ที่ทำการไปรษณีย์ ศาลากลางและห้องสมุดในเมืองมัลเดน รัฐวอชิงตัน โดยเพลิงไหม้ปะทุขึ้นราวเที่ยงวันของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และทำลายสถานที่ต่างๆ เกือบทั้งเมืองภายในเวลาเพียงสามชั่วโมง