Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวันจันทร์ กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (Homeland Security) ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการใหม่เพื่อป้องกันการละเมิดกฎเกณฑ์การใช้วีซ่า H1-B ที่ออกให้สำหรับลูกจ้างชาวต่างชาติที่จะมาทำงานแบบชั่วคราวในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมาตรการใหม่นี้มิได้เป็นไปตามที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รับปากไว้ในช่วงหาเสียง ว่าจะปฏิรูประบบการให้วีซ่า H1-B
โดยในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยสัญญาไว้ว่าจะยกเลิกระบบล็อตเตอรี่วีซ่า H1-B ที่ให้โอกาสชาวต่างชาติได้เข้ามาทำงานในสหรัฐฯ ปีละ 65,000 ตำแหน่ง
วีซ่าประเภทนี้มักนิยมใช้โดยบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ในอเมริกา เพื่อรับสมัครลูกจ้างทักษะฝีมือสูงจากต่างประเทศ เพราะส่วนใหญ่มีค่าจ้างถูกกว่าค่าแรงของคนอเมริกันในตำแหน่งเดียวกัน
โดยบรรดานักล็อบบี้ของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ต่างคาดหวังว่า รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะขยายจำนวนวีซ่าประเภทนี้ หรืออย่างน้อยก็คงระบบล็อตเตอรี่นี้ไว้
แต่คณะทำงานของ โดนัลด์ ทรัมป์ หลายคน รวมทั้งนาย Stephen Miller ที่ปรึกษาระดับสูง ได้ต่อต้านการออกวีซ่าทำงาน H1-B โดยบอกว่าทำให้สูญเสียตำแหน่งงานที่ควรจะเป็นของคนอเมริกัน
และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คือวันแรกของการเปิดรับใบสมัครสำหรับล็อตเตอรี่วีซ่า H1-B ประจำปีงบประมาณ ค.ศ. 2018 ซึ่งปรากฏว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่อล็อตเตอรี่ที่ว่านี้แต่อย่างใด
ที่ผ่านมา การเริ่มต้นล็อตเตอรี่วีซ่า H1-B ดังกล่าว ถูกมองว่าเป็นกำหนดเส้นตายวันสุดท้ายที่รัฐบาล ปธน.ทรัมป์ จะประกาศมาตรการปฏิรูประบบการออกวีซ่า H1-B
ดังนั้นการที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงต่อระบบล็อตเตอรี่ที่ว่านี้ นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าอาจเป็นสัญญาณว่าคำสัญญาที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ไว้ตอนหาเสียง นั้นอาจถูกชะลอออกไป หรือไม่ก็ไม่อยู่ในข่ายที่จะพิจารณาอีกต่อไป
สำหรับมาตรการที่เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ ในการประกาศของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ (Homeland Security) เมื่อวานนี้ ได้รวมถึงการที่จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ไปเยี่ยมบริษัทนายจ้างต่างๆ ที่ใช้วีซ่า H1-B
นอกจากนี้ ยังอาจรวมไปถึงการสอบสวนในกรณีที่ข้อมูลทางธุรกิจของนายจ้างไม่สามารถตรวจสอบได้ หรือธุรกิจที่มีการจ้างลูกจ้างผ่านวีซ่า H1-B ในอัตราส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับลูกจ้างอเมริกัน
ทางด้านคุณ Peter Robbio โฆษกของ Numbers USA ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาเรื่องการจำกัดจำนวนคนเข้าเมืองในสหรัฐฯ ระบุว่า
“ขณะนี้นายจ้างในสหรัฐฯ ยังสามารถใช้วีซ่า H1-B ในการจ้างลูกจ้างชาวต่างชาติได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาไว้ว่าจะปกป้องแรงงานชาวอเมริกัน”
นั่นหมายความว่า การออกวีซ่า H1-B จะยังคงรูปแบบเดิมเหมือนในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโอบาม่า คือจะมีการออกวีซ่าให้แก่ลูกจ้างชาวต่างชาติ 65,000 คนต่อปีผ่านระบบล็อตเตอรี่ และอีก 20,000 คนที่สำรองพิเศษไว้ให้กับลูกจ้างที่มีระดับการศึกษาขั้นสูง
อย่างไรก็ตาม ทางทำเนียบขาวยังมิได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้
(ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียงจากรายงานของ Reuters )