Your browser doesn’t support HTML5
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยื่นเรื่องให้หน่วยงานรักษากฎหมายทำการสอบสวนประเด็นการเปิดเผยรายละเอียดการยื่นชำระภาษีที่สื่อแห่งหนึ่งเสนอข่าวออกมาและระบุว่า เศรษฐีอเมริกันจำนวนหนึ่งไม่ได้ต้องเสียภาษีหรือชำระเป็นเงินเพียงน้อยนิดเท่านั้น
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า การเริ่มการสอบสวนดังกล่าวเกิดขึ้น หลังสื่อ ProPublica นำเสนอรายงานซึ่งอ้างข้อมูลจากหน่วยงาน Internal Revenue Service (IRS) หรือสำนักสรรพากรสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการขอคืนภาษีโดยชาวอเมริกันผู้มีฐานะร่ำรวยที่สุดหลายพันคนในช่วงระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา และมีการเอ่ยถึงชื่อของมหาเศรษฐีหลายคน อาทิ เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง แอมะซอน (Amazon) และ อิลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้ง เทสลา (Tesla) ว่าไม่ได้ต้องเสียภาษีให้รัฐบาลกลางบ้างในบางปีด้วย
หลังมีรายงานข่าวดังกล่าวออกมา เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า “การเปิดเผยข้อมูลความลับของรัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย" และย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความจริงจังที่จะดูแลประเด็นนี้ด้วย
ทั้งนี้ ProPublica กล่าวว่า ข้อมูลที่ใช้ในรายงานของตนนั้นถือเป็น “ข้อมูลความลับ” และไม่ยอมเปิดเผยว่าได้รับข้อมูลเหล่านี้มาได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน ลิลี่ อดัมส์ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ที่ส่งออกมาทางอีเมล์ว่า ประเด็นการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) อัยการของรัฐบาลกลาง และหน่วยงานกำกับดูแลกิจการภายใน 2 หน่วยของกระทรวงฯ แล้ว และว่า “หน่วยงานทั้งหมดมีอำนาจโดยอิสระที่จะทำการสอบสวนต่างๆ”
รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน พยายามหาทางเพิ่มอัตราการเก็บภาษีจากผู้มีฐานะในประเทศ เพื่อนำรายได้มาสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเพื่อสังคมอื่นๆ โดยเสนอให้ปรับอัตราภาษีสูงสุดจากปัจจุบันที่ 37 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นเป็น 39.6 เปอร์เซ็นต์ และปรับขึ้นอัตราภาษีผลได้จากทุน (Capital Gains Tax) เกือบเท่าตัวให้เป็น 39.6 เปอร์เซ็นต์ สำหรับชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป