Your browser doesn’t support HTML5
ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็นผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศยืนยันทิศทางการทำงานที่จะเน้นย้ำการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐฯ การบังคับใช้ข้อตกลงการค้าใหม่กับแคนาดาและเม็กซิโก รวมทั้งการดำเนินการให้จีนทำตามสัญญาการทำการค้าระหว่างกัน
แคเธอรีน ไท คือผู้ที่ปธน.ไบเดน เสนอชื่อให้เป็นผู้แทนการค้าสหรัฐฯ คนใหม่ และอยู่ในกระบวนการรับรองโดยวุฒิสภาอยู่
ในคำให้การที่เตรียมไว้สำหรับการเข้าร่วมกระบวนการถาม-ตอบ ให้แก่คณะกรรมาธิการด้านการเงินวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการรับรองตำแหน่ง ไทระบุว่า การทำงานของรัฐบาลปธน.ไบเดนนั้นมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายการค้าใหม่ในระยะยาว ที่เน้นประเด็น “แรงงานและลูกจ้าง” ในประเทศ รวมทั้ง การสนับสนุนนวัตกรรมของสหรัฐฯ และการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขนของสหรัฐฯ บนเวทีโลก เป็นหลัก
ในฐานะที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในการดำเนินนโยบายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ส่งออกอันดับที่ 2 ของโลก ว่าที่ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ไท จะกลายมาเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมากในเวทีการค้าโลก
และหากได้รับการรับรองจากวุฒิสภาอย่างที่หลายฝ่ายคาดไว้ ไท จะต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายหลายอย่างที่รออยู่ ซึ่งรวมถึง แรงกดดันจากบรรดาชาติพันธมิตรที่ต้องการให้รัฐบาลกรุงวอชิงตันยกเลิกภาษีนำเข้าที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บจากผลิตภัณฑ์เหล็ก อะลูมิเนียม เครื่องบิน และไวน์
ไท ซึ่งสามารถใช้ภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่ว ยังบอกด้วยว่า สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ การที่สหรัฐฯ มีแผนงานที่มีความสอดคล้องและประกอบด้วยองค์ประกอบทางยุทธศาสตร์ เพื่อรับมือกับจีนและช่วยให้บริษัทของสหรัฐฯ สามารถแข่งขันกับรูปแบบนโยบาย “เศรษฐกิจที่มีรัฐเป็นผู้คุมบังเหียน” ของจีนให้ได้
นอกจากนั้น ไท ยังประกาศจะให้ความสำคัญต่อการสร้างพันธมิตร และการหันกลับไปร่วมมือกับสถาบันระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ทุกชาติต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาภาวะโลกร้อน การระบาดใหญ่ของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ขณะที่เดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
การปรากฏตัวของเพื่อให้ปากคำของ ไท ต่อหน้าวุฒิสภาสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมต่างๆ และหุ้นส่วนทางการค้าของสหรัฐฯ ในหลายประเทศ กลุ่มแรงงาน และสมาชิกรัฐสภาทั้งหลาย เฝ้าจับตาดูและหวังเข้าล็อบบี้ถ้าหากเธอได้ขึ้นรับตำแหน่งจริงๆ