การพบกันในวันจันทร์ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และไทย มีการหารือในหลายประเด็น เช่น ความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก บทบาทไทยและอาเซียนในเมียนมา รวมถึงการที่ไทยจะขอเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันจันทร์ว่า รมต.แอนโทนี บลิงเคน และรมต.ปานปรีย์ พหิทธานุกร เน้นย้ำความสำคัญของการเป็นพันธมิตรของสองชาติ โดยรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และความมั่นคงเพื่อสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี
บลิงเคนยังได้หารือถึงบทบาทของไทยและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการแก้ไขวิกฤตในเมียนมา โดยรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองได้พูดถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่ผู้พลัดถิ่นในเมียนมา
ทั้งคู่ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลทหารเข้าสู่กระบวนการพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย รวมทั้ง ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม หยุดยั้งความรุนแรง และนำพาเมียนมาหวนคืนสู่เส้นทางประชาธิปไตยและการปกครองโดยพลเรือน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายปานปรีย์กล่าวว่า ประเทศไทยมีแผนจะเปิดระเบียงมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนเมียนมาเพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังพลเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน ตามข้อตกลงที่รัฐบาลเมียนมาเองก็ให้การยอมรับ อ้างอิงรายงานของเอพี
เอพียังระบุถึงคำถามจากตัวแทนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลเงา และนักวิเคราะห์ เกี่ยวกับความตั้งใจของรัฐบาลทหารเมียนมา ว่ามุ่งมั่นจะช่วยเหลือผู้คนที่ต้องพลัดถิ่นจากสงครามเพียงใด
ในวันจันทร์ กระทรวงการต่างประเทศไทยได้เผยแพร่ข่าวเรื่องการพบกันของปานปรีย์และบลิงเคน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเดินหน้าความร่วมมือตามแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐฯ และจะมีการหารือร่วมกันในการประชุม Strategic and Defense Dialogue ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์นี้
กระทรวงการต่างประเทศไทยระบุด้วยว่า สหรัฐฯ ชื่มชมบทบาทของไทยในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแก้ไขปัญหาในเมียนมา และยังได้หารือเรื่องการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในกาซ่า นอกจากนั้นฝ่ายไทยยังได้ขอรับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council - UNHRC) วาระปี 2025-2027 ด้วย
ในวันเดียวกัน นายปานปรีย์ยังได้เข้าพบกับจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยทั้งสองได้หารือในเรื่องการเพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ ร่วมกัน อ้างอิงตามหมายข่าวกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในวันจันทร์
ทั้งสองยังได้หารือเรื่องแนวทางที่จะทำให้กรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก หรือ IPEF เกิดขึ้นจริง และเกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงหุ้นส่วนของ IPEF ผ่านข้อตกลงด้านห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจที่เป็นธรรมและพลังงานสะอาด
- ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศไทย, กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ