สำนักงานศุลกากรและการปกป้องพรมแดนสหรัฐฯ หรือ CBP ประกาศคำสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มจากบริษัท Sime Darby Plantation Berhad ในมาเลเซีย สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการบังคับใช้แรงงานในบริษัทดังกล่าว
แถลงการณ์ของรักษาการผู้อำนวยการ CBP ระบุว่า คำสั่งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลที่มาของสินค้าที่คนอเมริกันใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน และว่า "ผู้บริโภคชาวอเมริกันสามารถช่วยยุติการค้าทาสสมัยใหม่ได้ด้วยการเลือกซื้อสินค้าที่มั่นใจได้ว่ามาจากแหล่งที่ถูกต้องและไม่มีการกระทำผิดใด ๆ"
CBP กล่าวด้วยว่า เป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทผู้ผลิตน้ำมันปาล์มต้องตระหนักถึงความสำคัญของการเลี่ยงการบังคับใช้แรงงาน ตลาดจนปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ด้านสิทธิมนุษยชนของคนงานอย่างเคร่งครัด
ปัจจุบัน น้ำมันปาล์มถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์หลายประเภท ตั้งแต่อาหาร เครื่องสำอาง ไปจนถึงเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยมีมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก
สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียเป็นมูลค่าราว 410 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ อ้างอิงจากรายงานของซีเอ็นเอ็น
บริษัท Sime Darby Plantation ถือเป็นบริษัทที่สามในมาเลเซียที่ถูกสหรัฐฯ สั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากข้อกล่าวหาเรื่องการบังคับใช้แรงงาน ซึ่งทางบริษัทยังมิได้ออกมาให้ความเห็นต่อกรณีนี้แต่อย่างใด