นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ทางออกที่เหมาะสมที่สุดต่อวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน คือการใช้วิธีทางการทูต โดยเขาหวังว่าจะได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
นายบลิงเคนระบุว่า สหรัฐฯ ใช้ยุทธศาสตร์สองทาง คือใช้วิธีทางการทูตซึ่งเป็นหนทางที่สหรัฐฯ ต้องการใช้มากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการป้องปรามเพื่อยับยั้งไม่ให้รัสเซียดำเนินการแบบคุกคาม
เมื่อวันพุธ นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ เดินทางเยือนกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เพื่อย้ำจุดยืนต่อนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียว่า หากรัสเซียรุกรานประเทศอธิปไตยอื่นอีกครั้ง จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเรียกร้องให้รัสเซียใช้วิธีทางการทูตเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์
ในวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ มีกำหนดการเยือนโปแลนด์เพื่อพบกับผู้นำและกองทัพอังกฤษที่ประจำการในโปแลนด์ ซึ่งเป็นพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ก่อนเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เพื่อหารือกับเลขาธิการนาโต้ เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก
นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวเมื่อวันพุธว่า ความพยายามของชาติพันธมิตรยุโรปกำลังส่งผล โดยแม้สถานการณ์จะยังคงตึงเครียดแต่ก็ยังควบคุมได้ โดยวิธีการทางทูตทำให้ความตึงเครียดลดน้อยลง
เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ของฝรั่งเศส กล่าวระหว่างการเยือนยูเครนว่า การหาทางออกจากวิกฤตนี้อาจใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากสถานการณ์ในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเขาไม่เชื่อว่าวิกฤตนี้จะแก้ได้จากการหารือเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ในวันเดียวกัน นายดมิทรี เฟสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า ข้อเสนอของผู้นำฝรั่งเศสต่อผู้นำรัสเซียนั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลอยู่ แต่ก็ระบุว่า รัสเซียยังไม่เห็นว่าชาติตะวันตกจะให้ความสำคัญต่อข้อกังวลของรัสเซียแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นาโต้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย ที่ให้นาโต้หยุดการขยายกองทัพในยุโรปตะวันออก บริเวณใกล้รัสเซีย และไม่ให้ยูเครน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ให้เข้าร่วมนาโต้ ในขณะที่ชาติตะวันตกระบุว่า พร้อมหารือกับรัสเซียในประเด็นตำแหน่งของขีปนาวุธในยุโรปตะวันออก และการซ้อมรบของนาโต้
- รายงานโดย ผู้สื่อข่าววีโอเอ Nike Ching ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์