ผู้แทนด้านการทูตของสหรัฐฯ และรัสเซีย พบกันในวันจันทร์ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเริ่มกระบวนการเจรจาระดับสูงในสัปดาห์นี้ว่าด้วยกรณีความตึงเครียดบริเวณพรมแดนรัสเซียติดกับยูเครน รวมทั้งความต้องการของรัสเซียที่มีต่อชาติตะวันตก
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การเจรจารอบใหม่นี้เริ่มขึ้นในวันช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยทางสหรัฐฯ ได้หารือและขอคำปรึกษาจากทั้งยูเครนและพันธมิตรในยุโรปและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ (NATO)
หลังการเจรจาที่นครเจนีาในครั้งนี้ รัสเซียมีกำหนดการเจรจากับสมาชิกองค์การนาโต้ที่กรุงบรัสเซลล์ในวันพุธ และองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe) ที่กรุงเวียนนาในวันพฤหัสบดี
ก่อนหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ ผู้แทนการทูตจากทั้งสองประเทศต่างระบุว่า ไม่น่าจะเกิดความคืบหน้ามากนักระหว่างการประชุมหารือในสัปดาห์นี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวในรายการ “State of the Union” ของสถานีข่าวซีเอ็นเอ็นว่า เป็นเรื่องยากที่จะเกิดความคืบหน้าในขณะที่ยังคงมีปืนจ่อไปที่ยูเครน
และว่า "เราจะรับฟังความกังวลของรัสเซียที่มีต่อกิจกรรมทางทหารของนาโต้ในแถบภาคกลางและภาคตะวันออกของยุโรป แต่รัสเซียก็ต้องรับฟังความกังวลของเราเช่นกัน" ซึ่งหมายถึงกรณีที่มีทหารรัสเซียราว 100,000 คนประจำการอยู่ตามแนวพรมแดนติดกับยูเครน
นอกจากนี้ รมต.บลิงเคน ยังได้เน้นย้ำผ่านรายการ “This Week” ของสถานีเอบีซีว่า สหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อรัสเซีย หากรัสเซียส่งทหารบุกรุกยูเครน แต่ทั้งนี้ วิธีทางการทูตยังคงเป็นตัวเลือกอันดับแรก
ขณะเดียวกัน สื่อของทางการรัสเซีย RIA รายงานคำพูดของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ราบคอฟ ที่กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย อาจจบลงทันทีหลังการหารือเพียงครั้งเดียว พร้อมยืนยันว่า "รัสเซียจะไม่ยอมตกปากรับคำใด ๆ ภายใต้แรงกดดันหรือคำขู่ใด ๆ ที่มาจากผู้ร่วมประชุมจากชาติตะวันตก"
ทั้งนี้ ก่อนการหารือต่าง ๆ จะเริ่มขึ้น กรุงมอสโกระบุความต้องการให้มีการรับรองว่า องค์การนาโต้จะระงับการขยายกองกำลังมาทางตะวันออกของยุโรป พร้อมกับยุติความร่วมมือทางทหารระหว่างยูเครนและจอร์เจีย ซึ่งต่างมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับรัสเซียอยู่
นอกจากนั้น รัฐบาลมอสโกยังปฏิเสธคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ว่า ตนกำลังวางแผนรุกรานยูเครน พร้อมกล่าวหารัฐบาลกรุงเคียฟว่า กำลังทำการสั่งสมกำลังทางทหารบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศอยู่ด้วย
- ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวรอยเตอร์