ชาวอเมริกันทั่วประเทศที่มีโทรศัพท์มือถือ ได้รับประกาศเตือนภัยในรูปของเสียงและข้อความปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ของตนในช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทดสอบส่ง 'ประกาศเตือนภัยฉุกเฉินจากประธานาธิบดี' ไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องทั่วประเทศเป็นครั้งแรก
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ประกาศเตือนภัยฉุกเฉินนี้ จะถูกนำมาใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น เช่น การตรวจจับขีปนาวุธที่มุ่งหน้ามายังอเมริกา การโจมตีของผู้ก่อการร้าย หรือการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟ
ข้อความที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือในสหรัฐฯ รวมจำนวนมากกว่า 200 ล้านเครื่อง เมื่อเวลา 14.18 น. ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า "นี่คือการทดสอบระบบเตือนภัยฉุกเฉินแบบไร้สายทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม"
สำนักงานงานบริหารภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ FEMA ระบุว่า สามารถส่งข้อความเตือนภัยฉุกเฉินไปยังโทรศัพท์มือถือ 225 ล้านเครื่องทั่วประเทศ คิดเป็นอย่างน้อย 75% ของโทรศัพท์มือถือทั้งหมดในสหรัฐฯ ภายในช่วงเวลา 30 นาทีที่ทำการทดสอบ
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งข้อความเตือนภัยฉุกเฉินไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนในแต่ละรัฐมากกว่า 36,000 ครั้ง ตั้งแต่เตือนภัยธรรมชาติไปจนถึงเตือนภัยเด็กหายหรือถูกลักพาตัว แต่ประกาศเตือนภัยในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการส่งจาก FEMA ไปยังโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศในคราวเดียวกัน
บรรดาผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างวิจารณ์การเตือนภัยนี้ว่าเป็นการยัดเยียด โดยที่ไม่เสนอทางเลือกอื่นให้กับประชาชน และมีจำนวนมากที่กังวลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งชื่นชอบการใช้ทวิตเตอร์อย่างมากนั้น อาจใช้วิธีนี้เป็นช่องทางในการส่งข้อความของตนไปยังประชาชนอเมริกันทุกคนทั่วประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ทาง FEMA ยืนยันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่สามารถส่งข้อความผ่านระบบเตือนภัยนี้ได้โดยตรง
ขณะที่มีประชาชนสามคนในนครนิวยอร์ก ได้ร่วมกันฟ้องร้องรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้ว ให้ยุติการส่งข้อความเตือนภัยแบบทั่วประเทศโดยที่ประชาชนไม่มีทางเลือก