ปธน.ทรัมป์ลงนามคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารปฏิรูปตำรวจ

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อดำเนินการปฏิรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสหรัฐฯ พร้อมเน้นย้ำให้เป้าหมายการรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยในประเทศเป็นหลัก

การลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารนี้เกิดขึ้นในวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ หลังมีประชาชนทั่วสหรัฐฯ และในหลายประเทศร่วมชุมนุมและเดินขบวนต่อต้านการใช้ความรุนแรงโดยตำรวจและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันผิวสี ระหว่างถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวที่เมืองมินนีแอโปลิสเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม

สำนักข่าว รอยเตอร์ส ระบุว่า คำสั่งล่าสุดนี้เป็นความพยายามของปธน.ทรัมป์ ที่จะแสดงความตั้งใจในการแก้ปัญหาความอยุติธรรมทางเชื้อชาติก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน

ปธน.ทรัมป์ ยังแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อครอบครัวของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงโดยตำรวจ พร้อมสัญญาที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมและเพื่อไม่ให้ผู้ที่วายชนม์เพราะเหตุดังกล่าว เสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์

อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า ยังต้องมีการรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยให้ประเทศต่อไป

ก่อนหน้านี้ ในช่วงแรกของการเดินขบวนทั่วประเทศและมีเหตุการณ์ที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มบุกรุก ทำลายทรัพย์สิน และขโมยของจากห้างร้านที่ถูกบุกไป ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความเรียกร้องให้มีการปราบปราบผู้ประท้วงและเน้นย้ำการใช้กำลังทหารเข้าจัดการกับความไม่สงบ

ภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารที่ออกมาใหม่นี้ ผู้นำสหรัฐฯ เน้นย้ำให้หน่วยงานตำรวจทั่วประเทศยึดถือมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่เมื่อต้องใช้กำลัง และปรับปรุงวิธีการใช้ข้อมูลร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่มีประวัติไม่ดีเข้ามาร่วมงาน รวมทั้งจ้างนักสังคมสงเคราะห์มาช่วยงานเกี่ยวกับยาเสพติดและคนไร้บ้าน ที่ไม่มีกรณีการใช้ความรุนแรง

ในการดำเนินการปฏิรูปนั้น รัฐบาลจะเพิ่มงบประมาณให้กับสำนักงานตำรวจต่างๆ ที่ผ่านการตรวจสอบงานโดยหน่วยงานอิสระจากภายนอก พร้อมทั้งสั่งห้ามการใช้วิธีการกดรัดคอ หรือ Chokehold ยกเว้นแต่กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นั้นตกอยู่ในภาวะอันตรายถึงชีวิต และแนะนำให้มีการใช้อาวุธที่ไม่ทำให้เสียชีวิต เช่น ปืนช็อตไฟฟ้า เป็นต้น แทน