ผู้บริโภคทั่วสหรัฐฯ แห่เข้าร้านขายยาเพื่อฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขณะโควิด-19 ยังระบาดหนัก

Your browser doesn’t support HTML5

ฺBusiness News


ก่อนที่สหรัฐฯ เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เร่งแนะนำให้ประชาชนไปรับการฉีดวัคซีนต้านไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นอาการป่วยตามฤดูกาลที่คร่าชีวิตผู้คนราว 60,000 คนในแต่ละปี แต่ในปีนี้ การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทำให้ความต้องการรับวัคซีนดังกล่าวพุ่งสูง เนื่องจากผู้คนกลัวกับการระบาดใหญ่คู่ขนานในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากเลือกที่จะไปรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามร้านขายยาใกล้บ้านในปีนี้ เนื่องจากที่ทำงานไม่ได้จัดให้มีการฉีดวัคซีนฟรีเหมือนทุกปี เพราะการจำกัดคนเข้าพื้นที่ตามมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19

กระแสที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่า เชนร้านยาทั่วประเทศรวมทั้งธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีสาขามากมายและมีบริการร้านขายยาภายในพื้นที่น่าจะได้รับอานิสงส์ในรูปของรายได้ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้อย่างไม่ยาก

เครือข่ายร้านขายยา CVS คาดว่าในปีนี้ ความต้องการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามร้านสาขาจะเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจาก 9 ล้านครั้งในฤดูใบไม้ร่วงของปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็น 18 ล้านครั้งในปีนี้ ขณะที่ ธุรกิจเครือข่ายร้านขายยา Rite Aid เปิดเผยว่า ความต้องการวัคซีนตามร้านสาขาของตนพุ่งขึ้นไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจร้านขายยาในสหรัฐฯ ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 และประชาชนพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปหาหมอ ซึ่งทำให้การสั่งจ่ายยาลดลง และยอดขายของร้านยาทั้งหลายหดตัวตามไปด้วย

ในสหรัฐฯ นั้น ผู้ที่มีประกันสุขภาพส่วนใหญ่สามารถรับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆ ซึ่งรวมถึงเชนร้านขายยาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีประกันนั้นอาจต้องควักกระเป๋าค่าวัคซีนเป็นเงินราว 40 ดอลลาร์

ไบรอัน แทนควิลัต นักวิเคราะห์ธุรกิจบริการด้านสุขภาพจาก Jefferies เชื่อว่า ร้านขายยานั้นมีกำไรขั้นต้นจากบริการฉีดวัคซีนตัวละ 15 ดอลลาร์ ขณะที่ผู้ที่มารับการฉีดยามักหาซื้อของติดมือออกไป ซึ่งหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปด้วย