สหรัฐฯ ระงับการส่งอาวุธระเบิดให้กับอิสราเอลตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จากความกังวลที่อิสราเอลอาจตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินเต็มรูปแบบในเมืองราฟาห์ทางภาคใต้ของฉนวนกาซ่า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ผู้หนึ่งในวันอังคาร
รอยเตอร์รายงานว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวต่อคณะอนุกรรมาธิการจัดสรรงบประมาณแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ (Senate Appropriations Committee Subcommittee) เมื่อวันพุธว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะระงับการส่งอาวุธให้แก่อิสราเอล เนื่องจากรัฐบาลกรุงวอชิงตันเชื่อว่าปฏิบัติการของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ จะทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตกอยู่ในความเสี่ยง และคณะทำงานของปธน.ไบเดนจะพิจารณา “การจัดส่งความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่อิสราเอลในช่วงเวลาอันใกล้นี้”
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่าต่อวุฒิสภาว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้มีการสู้รบเกิดขึ้นในราฟาห์ และว่าปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่น้อยที่สุดควรเกิดขึ้นเพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ “เราแสดงความชัดเจนอย่างแจ่มแจ้ง .. ตั้งแต่แรกเริ่มว่าอิสราเอลไม่ควรโจมตีราฟาห์โดยปราศจากการพิจารณาถึงและการปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิ” และว่า “เราได้ประเมินสถานการณ์แล้ว เราจึงได้ระงับการจัดส่งอาวุธ”
Your browser doesn’t support HTML5
รมต.ออสติน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะทำงานปธน.ไบเดนคนแรกที่ออกมาอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐฯ ในด้านอาวุธต่ออิสราเอล แต่ก็ยังคงย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนป้องกันตนเองของอิสราเอล และการตัดสินใจระงับการส่งอาวุธนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้ายชัดเจน
อาวุธดังกล่าวประกอบด้วยระเบิดน้ำหนัก 900 กก. จำนวน 1,800 ลูก และระเบิด 225 กก. จำนวน 1,700 ลูก อ้างอิงจากจนท.อเมริกันดังกล่าวซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยทางการสหรัฐฯ กังวลว่าอิสราเอลอาจใช้ระเบิดเหล่านั้นในเมืองราฟาห์ซึ่งมีประชาชนและผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์อาศัยอยู่อย่างหน่าแน่น
คาดว่าขณะนี้มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองราฟาห์ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายของประชาชนที่อพยพหนีสงครามมาจากทั่วกาซ่า ตั้งแต่อิสราเอลเริ่มการโจมตีใส่ฉนวนกาซ่าหลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มฮามาสบุกอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 คน และจับกุมตัวประกันราว 250 คน
การระงับส่งอาวุธจากสหรัฐฯ ให้แก่อิสราเอลครั้งนี้ คือมาตรการที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่สหรัฐฯ เคยนำมาใช้เพื่อกดดันให้อิสราเอลทบทวนการบุกโจมตีเมืองราฟาห์ และให้จัดทำแผนปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ในกาซ่า
นอกจากนี้ยังมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีกำหนดต้องประกาศการตัดสินใจในสัปดาห์นี้ว่า จะระบุให้การโจมตีทางอากาศในกาซ่าและการที่อิสราเอลกีดกันการขนส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่านั้น ถือเป็นการละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ และกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่
หากสหรัฐฯ ตัดสินใจว่าอิสราเอลทำผิดกฎหมาย อาจยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ปธน.ไบเดน ต้องยิ่งหลีกเลี่ยงการส่งอาวุธและเงินทุนสนับสนุนกองทัพอิสราเอลตามไปด้วย
Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อเดือนเมษายน รัฐบาลอเมริกันเริ่มกระบวนการทบทวนการส่งความช่วยเหลือด้านทหารให้แก่อิสราเอล หลังจากที่รัฐบาลอิสราเอลกำลังเข้าใกล้กับการบุกโจมตีราฟาห์ท่ามกลางเสียงทัดทานจากสหรัฐฯ
ในวันอังคาร กองทัพอิสราเอลสามารถยึดจุดผ่านแดนเมืองราฟาห์ทางฝั่งกาซ่าซึ่งติดกับพรมแดนอียิปต์เอาไว้ได้แล้ว หนึ่งวันหลังจากที่มีคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์ราวหนึ่งแสนคนอพยพออกจากพื้นที่ก่อนระดมโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงทำเนียบขาว ระบุว่า ทางอิสราเอลยืนยันว่าการโจมตีในฝั่งตะวันออกของเมืองราฟาห์ดังกล่าวเป็นการโจมตีแบบจำกัดทั้งขนาดและระยะเวลา เป้าหมายเพื่อตัดขาดการลอบขนส่งอาวุธของกลุ่มฮามาส และสหรัฐฯ จะจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายความช่วยเหลือแก่รัฐบาลต่างชาติมูลค่า 95,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือด้านการทหารมูลค่าเกือบ 14,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่อิสราเอล นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอนุมัติระบบนำทางสำหรับติดตั้งกับลูกระเบิดให้แก่อิสราเอลด้วย
- ที่มา: เอพี, รอยเตอร์